ลามาร์ แจ็คสัน กับ เดอร์ริค เฮนรี 2 ผู้เล่นความหวัง บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ทำคนละ 2 สกอร์ ต้อน พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ขาดลอย 28-14 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) รอบไวล์ด-การ์ด สายเอเอฟซี (AFC) วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม
เรฟเวนส์ เข้ารอบ 2 รอพบ บัฟฟาโล บิลล์ส หรือ ฮุสตัน เท็กแซนส์ โดยนำห่าง 21-0 ช่วงพักครึ่ง แล้วรักษาสกอร์กระทั่้งจบเกม แถมกุมความได้เปรียบเหนือ พิตต์สเบิร์ก ด้านการเปลี่ยนดาวน์ที่ 1 เฉพาะครึ่งแรก 19-2 ครั้ง สร้างไดรฟ์การบุกซึ่งจบด้วยทัชดาวน์ ระยะ 95, 85 และ 90 หลา
เฮนรี รันนิงแบ็ก วิ่ง 186 หลา สถิติรวมของ บัลติมอร์ 299 หลา ส่งผลให้ พิตต์สเบิร์ก เสียระยะจากการป้องกันวิ่งมากสุดเฉพาะ 1 เกมเพลย์ออฟ แทนของเดิม 232 หลา พบ โอคแลนด์ เรดเดอร์ส ราว 51 ปีก่อน ขณะที่ แจ็คสัน ควอเตอร์แบ็ก ขว้างบอลเข้าเป้า 16 จาก 21 ครั้ง ระยะ 175 หลา ถือบอลวิ่งเอง 81 หลา
แจ็คสัน ปิดไดรฟ์การบุกชุดแรก โดยขว้างทัชดาวน์ระยะ 15 หลา ให้ ราช็อด เบตแมน ปีกนอกหมายเลข 1 ของทีม หลัง เซย์ ฟลาวเวอร์ส บาดเจ็บหัวเข่า ถัดมา เฮนรี วิ่งทัชดาวน์ 8 หล่า ทิ้งห่าง 14-0 เหลือเวลาครึ่งแรก 4 นาที 9 วินาที
สตีลเลอร์ส ขอเวลานอกระหว่างการเล่นดาวน์ที่ 3 ต้องการ 2 หลา ตรงเส้น 18 หลาแดนคู่แข่ง โดยคาดหวังว่าจะได้บอลกลับคืน แต่ เรฟเวนส์ เปลี่ยนเป็นดาวน์ที่ 1 สำเร็จ แล้วรุกมาถึงระยะหวังผลทำสกอร์อย่างรวดเร็ว
ดาวน์ที่ 2 ตรงเส้น 5 หลาแดนพิตต์สเบิร์ก เหลือเวลา 11 วินาที แจ็คสัน ใช้เวลาจนเกือบหมด แล้วขว้างทัชดาวน์ให้ จุสติซ ฮิลล์ ไทต์เอนด์ เหลือเวลา 2 วินาที
สตีลเลอร์ส สร้างไดรฟ์การบุกทัชดาวน์ 98 หลา ตั้งแต่การครองบอลชุดแรกของครึ่งหลัง โดย รัสเซลล์ วิลสัน ควอเตอร์แบ็ก ขว้าง 30 หลา ให้ แวน เจฟเฟอร์สัน แต่ บัลติมอร์ ตอบโต้ทันควัน เฮนรี วิ่งเจาะตรงกลาง 44 หลาถึงเอนด์ โซน เนื่องจากทีมรับ พิตต์สเบิร์ก สับสนตำแหน่ง หลังถูก แจ็คสัน วิ่งหลอกล่อ
วิลสัน ปาทัชดาวน์ 36 หลา ให้ จอร์ต พิคเกนส์ ควอเตอร์ 3 แต่สายเกินไป จบเกมขว้างคอมพลีต 20 จาก 29 ครั้ง ระยะ 270 หลา
ผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งของสายเดียวกัน ฮุสตัน เท็กแซนส์ เล่นงาน จัสติน เฮอร์เบิร์ต ควอเตอร์แบ็ก เสียอินเทอร์เซ็ปต์สูงสุดของอาชีพ 4 ครั้ง เอาชนะ แอลเอ ชาร์เจอร์ส ขาดลอย 32-12 ที่สนาม เอ็นอาร์จี สเตเดียม
เอริค เมอร์เรย์ วิ่งย้อน 1 จาก 4 อินเทอร์เซ็ปต์ของ เฮอร์เบิร์ต ถึงเอนด์ โซน และ ซี.เจ. สเตราด์ ควอเตอร์แบ็ก เท็กแซนส์ ขว้าง 1 ทัชดาวน์ และ โจ มิกซัน รันนิงแบ็ก วิ่ง 106 หลา 1 ทัชดาวน์
ก่อนหน้า เฮอร์เบิร์ต เสียแค่ 3 อินเทอร์เซ็ปต์ ช่วงฤดูกาลปกติ และไม่เคยเสียมากกว่า 2 อินเทอร์เซ็ปต์ เฉพาะ 1 เกม กระทั่งเจอกองหลัง เท็กแซนส์ อย่าง ดีเร็ก สติงลีย์ (2) และ คามารี ลาสซิตเตอร์
เท็กแซนส์ ไม่ปล่อยให้ เฮอร์เบิร์ต ปักหลักขว้างในพ็อคเก็ต (แนวป้องกัน) แบบง่ายๆ คอยกดดันกระทั่งได้ 4 แซ็ค และจู่โจมถึงเนื้อถึงตัว 9 ครั้ง
ชาร์เจอร์ส กลับสู่เพลย์ออฟครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของ จิม ฮาร์บอห์ แพ้เกมไวลด์ การ์ด 2 ปีติดต่อกัน หลังจบซีซัน 2022 สถิติแพ้มากกว่าชนะ และยังหาชัยชนะเกมเพลย์ออฟไม่เจอ นับตั้งแต่ปี 2018
