สุภโชค สารชาติ แนวรุกทีมชาติไทย จากสโมสร ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในเจลีก เชื่อมั่นว่าเพื่อนร่วมทีมจะรับมือกับความกดดันในอาเซียน คัพ ได้อย่างแน่นอน แม้จะมีนักเตะหน้าใหม่หลายคนก็ตาม
สำหรับ สุภโชค เคยคว้าแชมป์อาเซียนกับทีมชาติไทย 1 ครั้ง ในปี 2020 และถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีประสบการณ์สูงในทีมชุดนี้ รวมถึงได้รับเลือกให้เป็นรองกัปตันทีมอีกด้วย
"ความพร้อมของตัวเองตอนนี้อยู่ในช่วงเรียกความฟิต เพราะผมเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บด้วยและยังไม่มีเกมได้ลงเล่นเพื่อเรียกความฟิตมากเท่าที่ควร อาจจะต้องใช้เวลาเรียกความฟิตให้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากมีโอกาสได้ลงสนาม ผมจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อช่วยทีมชาติไทยเก็บชัยชนะในเกมที่เจอกับมาเลเซีย" สุภโชค กล่าว
"ผมคิดว่านักเตะชุดนี้มีศักยภาพที่ดีในตัวของแต่ละคนอยู่แล้ว หลายคนเป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งติดเข้ามาทำให้อาจจะมีความกระหายในการโชว์ผลงานของตัวเอง ส่วนการขาดรุ่นพี่ซีเนียร์ไป ผมคิดว่าอาจจะมีผลในเรื่องของประสบการณ์และการเร่งจังหวะเกมบ้างในบางครั้ง แต่ผมเชื่อว่าหลายคนจะสามารถทดแทนและทำได้ดีไม่แพ้กัน ทำให้รายการระดับอาเซียนไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับทีมชาติไทย"
"ทุกทีมที่จะเจอเราแน่นอนว่าพวกเขาอยากที่จะชนะเราให้ได้ เพราะในอาเซียนเราถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งอยู่ในขณะนี้ เพราะฉะนั้นเราต้องห้ามประมาทในทุกเกม และโชว์มาตรฐานของเราให้ดีให้เขารู้ว่าเราเป็นทีมที่ไม่ได้รับมือกันง่ายๆ"
"เราเป็นแชมป์มาเมื่อครั้งที่ผ่านมา ทำให้แฟนบอลหรือใครหลายคนคาดหวังอยากเห็นเราป้องกันแชมป์ให้ได้ แต่ส่วนตัวผมไม่ได้กดดันอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติที่แฟนบอลจะคาดหวังกับทัวร์นาเมนต์นี้ ผมเชื่อว่าทุกคนในทีมจะรับมือความกดดันตรงนี้ได้ หลายคนมีประสบการณ์ในระดับอาเซียนมาค่อนข้างเยอะและด้วยศักยภาพที่เรามี ทำให้ความกดดันไม่น่าจะมีผลกับทีมมาก"
"ฝากแฟนบอลชาวไทยเป็นกำลังใจให้เราด้วย ติดตามเชียร์พวกเราทั้งที่สนาม รวมถึงทางถ่ายทอดสดด้วย แต่ก็อยากให้มาเชียร์พวกเราในสนาม มากันให้เต็มสนาม เพื่อเป็นกำลังให้ทุกคนในทีม พวกเราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อคว้าแชมป์ให้ได้"
โปรแกรมนัดต่อไปของ ทีมชาติไทย จะทำศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่สอง พบกับ มาเลเซีย ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 20.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32, AIS PLAY และ ยูทูป : BG SPORTS
สำหรับแฟนบอลที่สนใจ สามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน เกมเหย้าของทีมชาติไทยได้ที่ ได้ที่ https://bit.ly/3V9txcR และจุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สาขาหลัก 11 สาขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป