xs
xsm
sm
md
lg

น่ายินดีเทนนิสไทย / คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บูม กษิดิศ สำเร็จ กับ เอิร์ธ เพียงธาร ผลิพืช
คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"

วงการเทนนิสไทยที่ซบเซามานานไร้ทายาท ภราดร ศรีชาพันธุ์, ดนัย อุดมโชค ตลอดจนถึง แทมมารีน ธนสุกาญจน์ แต่จะว่าไปแล้วต่างประเทศก็เงียบเหงาเช่นกัน 4 จตุรเทพทยอยแขวนแร็กเก็ตเหลือ โนวัค ยอโควิช คนเดียว ด้านฝ่ายหญิงยิ่งแล้วใหญ่ไร้ดาวเด่นระดับแม่เหล็กมานาน

แต่ล่าสุดไทยมีข่าวดีเมื่อ "บูม" กษิดิศ สำเร็จ คว้าแชมป์ชายเดี่ยว "2025 เอโอ เอเชีย-แปซิฟิก ไวลด์การ์ด เพลย์ออฟ" ที่ประเทศจีน จึงทำให้ได้ไวลด์การ์ดเข้าไปแข่งขันรอบเมนดรอว์ประเภทชายเดี่ยวศึกแกรนด์สแลม "ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025" ที่จะมีขึ้นต้นปีหน้า ถือเป็นนักเทนนิสไทยคนแรกรอบ 13 ปีเลยทีเดียว

"บูม" กษิดิศ สำเร็จ วัย 23 ปี ปัจจุบันรั้งมือ 414 ของโลก เปิดเผยว่า ดีใจมาก ๆ ที่ได้ตั๋วร่วมศึกแกรนด์สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025 เดิมตั้งใจจะเข้าไปแข่งขันรายการนี้ให้ได้ในปี 2026 แต่มาทำสำเร็จได้ตั้งแต่ปีนี้ ถือเป็นอะไรที่เกินความคาดหวังของตนมากๆ

"ช่วงปลายปี 2024 ผมลงแข่งในเอทีพี ชาเลนเจอร์ ที่สูงกว่าระดับไอทีเอฟ มากขึ้น ซึ่งได้เจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้น เกมการเล่นของผมก็พัฒนามากขึ้น ถือเป็นหนึ่งในแผนที่เตรียมกันไว้กับทีมว่าจะต้องออกไปแข่งในทัวร์ที่สูงขึ้น เพื่อโอกาสในการพัฒนาตัวเอง กลับมาไทยรอบนี้ยังคงเตรียมตัวต่อเพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขันในออสเตรเลียน โอเพ่น ซึ่งต้องเล่น 3 ใน 5 เซต ดังนั้นการเตรียมตัวก็จะเข้มข้นขึ้นแน่นอน ที่สำคัญก็ถือว่าเป็นการได้เตรียมตัวสำหรับปี 2025 ไปด้วยครับ"

กษิดิศ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ก็อดใจไม่ไหวแล้วเช่นกันที่จะได้ลงเล่นแกรนด์สแลมแรกในชีวิต ส่วนตัวมองว่าเจอกับใครก็ได้ ถ้าเลือกได้อยากจะเจอ โนวัค โยโควิช เพราะอยากเล่นกับเขาเหมือนกันจะได้รู้ว่าเกมจะออกมาเป็นอย่างไร ไปครั้งนี้จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะคว้าชัยชนะให้ได้ ส่วนหลังออสเตรเลียน โอเพ่น ตนก็จะตระเวนแข่งขันต่อเนื่อง เพื่อเก็บคะแนนทำอันดับโลกให้สูงขึ้น เพื่อโอกาสเข้าไปเล่นในระดับเอทีพีทัวร์ ตนเองตั้งเป้าจะทำอันดับเข้าไปติดท็อป 200 ให้ได้เป็นอย่างน้อย ส่วนรายการต่อไปที่จะกลับมาลงสนามก็คือ BANGKOK OPEN 2025 (1) ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2567 - 4 ม.ค. 2568 ที่ประเทศไทย

ไม่เพียงแค่นั้นยังมี "เอิร์ธ" เพียงธาร ผลิพืช ได้แชมป์ประเภทหญิงคู่จากรายการเดียวกันกับ "บูม" กษิดิศ จึงทำให้ได้ไวลด์การ์ดรอบเมนดรอว์ประเภทหญิงคู่ "ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025" เช่นเดียวกัน

"เอิร์ธ" เพียงธาร ผลิพืช นักหวดมากประสบการณ์วัย 32 ปี มืออันดับ 128 ของโลกในประเภทหญิงคู่ จะถือเป็นการเล่นแกรนด์สแลมครั้งที่ 3 ของตนเอง ต่อจากออสเตรเลียน โอเพ่น 2022 และวิมเบิลดัน 2022

"การเข้าไปเล่นในระดับแกรนด์สแลมได้ ถือเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ แล้ว แต่สำหรับเอิร์ธยังมีเป้าหมายว่าอยากจะเอาชนะคู่แข่งในออสเตรเลียน โอเพ่น ให้ได้ ส่วนการเตรียมตัวหลังจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปี 2025 ก็คิดไว้ว่าอยากจะจับคู่กับ เส้า เซียะ ยี่ จากไต้หวัน คู่ที่ช่วยกันคว้าตั๋วแกรนด์สแลมลงแข่งด้วยกันให้ได้สัก 2-3 แมตช์ แต่ถ้าไม่ได้เล่นดับเบิลยูทีเอทัวร์ หรือไม่ได้เล่นด้วยกัน ก็อาจต้องปรับแผนอีกที โดยคงจะลงแข่งขันในแมตช์ไอทีเอฟที่ไทยเพื่อเตรียมความพร้อม"

เพียงธาร ยังเผยอีกว่า ช่วงนี้ถือเป็นช่วงท้าย ๆ ของการเล่นเทนนิสแล้ว ส่วนตัวตั้งใจจะรักษาร่างกายและผลงาน เพื่อไปให้ถึงเอเชียนเกมส์ 2026 ที่นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น อีกสักครั้ง ถ้าเล่นไปแล้วยังมีผลงานที่ดี มีอันดับโลกที่ดี ขึ้นไปติด 70 อันดับแรกของโลกได้ ก็อยากจะพัฒนาและเล่นต่อไปเรื่อย ๆ ก่อน เพราะจะมีโอกาสได้เล่นรายการใหญ่ และเล่นแกรนด์สแลมต่อเนื่องด้วย แต่ถ้าหลุดไปเกิน 120 ก็อาจจะถึงเวลาที่ต้องเลิกเล่น

ไม่ใช่แค่ "บูม" กับ เอิร์ธ" ที่ได้ไปเล่ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025 ยังมี "รวงข้าว" ลัลนา ธาราฤดี และ "ไหม" มนัญชญา สว่างแก้ว ที่จะได้ไปเล่นด้วยอันดับโลก และยังมี "น้องบัว" กมลวรรณ ยอดเพ็ชร ที่ได้ไวลด์การ์ดไปเล่นในระดับเยาวชน "ออสเตรเลียน โอเพ่น จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2025" ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น