คอลัมน์ "TKO" โดย "น็อกเอาต์ แมน"
เก็บชัยชนะได้อย่างสวยสดงดงามอีก 1 ไฟต์ สำหรับ "นาดากะ โยชินาริ" หรือ "นาดากะ เอวะสปอร์ตยิม" ที่ล่าสุดเพิ่งปราบ เพชรหนึ่ง เพชรมวยไทยยิม กำปั้นชาวฝรั่งเศส ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ป้องกันแชมป์รุ่น 115 ปอนด์ ของเวทีมวยราชดำเนิน เอาไว้ได้
ไฟต์ดังกล่าว นาดากะ เดินหน้าลุยใส่ เพชรหนึ่ง อย่างต่อเนื่องตามสไตล์ของตัวเอง ภาษามวยจะบอกว่า "คนละชั้น" กันเลยก็ว่าได้ ผู้ท้าชิงแทบทำอะไรเจ้าของเข็มขัดไม่ได้เลยแม้แต่น้อย โดย นาดะกะ ได้ไป 1 นับ ก่อนจะปิดจ๊อบอย่างไม่ยากเย็น เดินหน้าสร้างสถิติไร้พ่าย 35 ไฟต์ ติดต่อกัน
สำหรับ นาดาะ โยชินาริ เก่งกาจถึงขั้นคว้าเข็มขัดแชมป์มวยไทยไปแล้วเกิน 10 เส้น ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญเจ้าตัวเพิ่งจะอายุเพียงแค่ 23 ปี ค่อยๆ ไต่ขึ้นไปทีละรุ่น เอาชนะนักมวยชาวไทยทีละคนสองคน
เจ้าตัวเกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2001 ณ เมืองคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น แรกเริ่มเดิมทีเขาออกสตาร์ทจากการต่อยคิกบ็อกซิ่งระดับสมัครเล่นมาก่อน มีสถิติที่ยอดเยี่ยม ชนะ 80 ไฟต์ แพ้ 13 ไฟต์ เสมอ 2 ไฟต์
จากนั้นจึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางมาโลดแล่นในกติกามวยไทย จนครองแชมป์เส้นแรกในชีวิตด้วยการเอาชนะน็อก ยักษ์แสด ศิริลักษณ์มวยไทย ฉกเข็มขัดรุ่นพินเวตของสภามวยไทยโลก (WMC) มาครองได้สำเร็จ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้นักชกที่สามารถเอาชนะ นาดากะ ได้เป็นคนสุดท้าย คือ อีสานใต้ ศิษย์เชฟบุญธรรม ที่เอาชนะคะแนนในศึกเชฟบุญธรรม ณ เวทีมวยราชดำเนิน เมื่อ 18 ก.ค.2019 หรือเมื่อ 5 ปีก่อน แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่ปราชัยให้แก่ผู้ใดอีกเลยมาจนถึงสิ้นปี 2024
นาดากะ เอาชนะสุดยอดนักชกชาวไทยมาแล้วหลายต่อหลายคน ซึ่งแต่ละคนก็ถือว่าเป็นบิ๊กเนมทั้งนั้น เช่น เฮอคิวลิส ว.จักรวุฒิ, จอมโหด ออโต้มวยไทย, รุ่งวิทยา ลูกเจ้าแม่ไทรทอง, แวววาว ว.กลิ่นปทุม รวมไปถึง ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์ ที่ปัจจุบันได้สัญญา ONE Championship ไปแล้ว
น่าสนใจว่าหลังจากนี้เส้นทางของ นาดากะ โยชินาริ จะไปหยุดอยู่ที่ใด สถิติอันสวยหรูของเขาจะไปจบลงตรงไหนยังไม่มีใครทราบ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือสไตล์การชกของเขาสามารถยืดหยัดได้ทั้งในมวยไทย 5 ยก หรือหากจะย้ายไปต่อมวยไทย 3 ยก นวมเล็ก ของ ONE ก็ดูจะไม่เสียหาย
สไตล์การชกของ นาดากะ ไม่ใช่มวยเชิงที่ถอยตั้งรับแล้วรอจังหวะปล่อยอาวุธเหมือนกับนักมวยไทย 5 ยกโดยทั่วไป แต่เจ้าตัวเป็นนักชกในสไตล์ที่ค่อนข้างบู๊ ออกอาวุธได้อย่างหลากหลาย เป็นกำปั้นชาวญี่ปุ่นที่มีทักษะแม่ไม้มวยไทยดีเยี่ยม กล้าหยิบเอามาใช้ ไม่ได้ใช้เป็นแต่หมัด หรือลูกถีบเหมือนกับนักชกจากแดนปลาดิบรายอื่นๆ
ตอนนี้ นาดากะ คงจะโฟกัสอยู่ที่การป้องกันตำแหน่งแชมป์รุ่น 115 ปอนด์ เวทีมวยราชดำเนิน ไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นคงมองหาโอกาสขยับรุ่น หรือหาความท้าทายใหม่ๆ ต่อไป ซึ่งเครื่องหมายคำถามคือ "ใครกันจะมาหยุดความร้อนแรงของเขาได้" !?