xs
xsm
sm
md
lg

"เพชรทนง" วอนแฟนหมัดมวยเลิกมโนไปเอง ยืนยันไม่เคยคิดหนี "นาบิล" จะแพ้ หรือชนะ ก็ได้ค่าตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส อดีตแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง ONE รุ่นแบนตัมเวต ต้องถอนชกกับ นาบิล อานาน ในกติการคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ศึก ONE Fight Night 26 ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคมนี้ หลังเจ้าตัวโหมลดน้ำหนักจนเกินขีดจำกัดของตัวเอง ทรุดหนัก หามส่งโรงพยาบาล

ล่าสุดอดีตแชมป์โลกวัย 39 ปี ออกมาโพสต์ร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงแบบละเอียดยิบ ยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาจะหนี นาบิล อานาน วอนแฟนมวยหยุดมโนไปเอง พร้อมขึ้นสังเวียนไปสู้ จะแพ้ หรือชนะ ก็ได้ค่าตัว โดยยังกล่าวขอโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนอีกด้วย

"ก่อนอื่นเลยผมต้องขอโทษ นาบิล ,ทีม Venum และทีม one championship ทุกท่านครับ รวมถึงแฟนคลับและทีมงานของผมเองที่ทำให้ผิดหวังครับ" เพชรทนง เริ่มกล่าว

"ผมน้อมรับคำติทุกคำหรือทุกคอมเมนท์ แต่ผมขออนุญาตชี้แจง สำหรับหลายๆท่านที่คิดว่าผมมีเจตนาหนีนาบิล ถ้าผมมีเจตนาหนี ผมคงไม่ฝึกซ้อม และพยายามทำทุกอย่างจนวินาทีสุดท้ายครับ ขอแก้ข่าวก่อน เรื่องน้ำหนัก ผมทำน้ำหนักได้ ขาดประมาณ3 ขีด ก่อนขึ้นชั่งจริง ตอนผมขึ้นชั่งเป็นทางการโดยไม่มีการถอดกางเกงใดๆ เพราะค่าน้ำเกิน ถ้าสังเกตจากภาพ"

"ผมสวมกางเกง 2 ชั้น พร้อมกับมีเทปแดงปิดโลโก้สปอนเซอร์ที่ต้องห้าม และเทปสีดำติดตามจุดต่างๆ ของกางเกง ส่วนที่ผมทำไม่ได้ตามเวลาหรือในรอบแรก คือค่าน้ำครับ ค่าน้ำผมเกินกำหนดมาตรฐานของรายการ สิ่งที่ผมต้องจัดการต่อคือค่าน้ำ ส่วนอื่นๆเป็นดีเทลยิบย่อยที่ผมคิดว่าไม่ควรชี้แจง แต่ทุกอย่างผมพยายามทำจนวินาทีสุดท้ายแล้วครับ เอาเป็นว่าผมและนาบิล ทีมงานของน้องเองได้ตกลงกันทั้งหมดแล้ว ว่าจะจ่ายค่าชดเชยตามที่นาบิลและทีมของน้องต้องการทุกอย่าง อยากเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่เรียกเลย ขอแค่ได้ชก"

"แต่ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ตามเงื่อนไขของรายการทางผมก็น้อมรับบทเรียนและความผิดพลาดของผมเอง ที่วางแผนผิดสำหรับค่าน้ำ เพราะเน้นโฟกัสเรื่องน้ำหนักมากจนเกินไป ส่วนที่ผมเข้าโรงพยาบาล เพราะช่วงเวลานั้นตะคริวกินทั้งตัวแถมมีอาการท้องเสียด้วย ทางน้องโอ๋และทีมงานของผมจึงตัดสินใจนำผมส่งโรงพยาบาล ผมไม่ได้อยากออกมาพิมพ์ อะไรมากมายขนาดนี้"

"ทั้งหมดผมแค่อยากขอโทษทุกท่านที่เกี่ยวข้องและขอโทษนาบิล พร้อมกับชี้แจงให้ทุกท่านทั้งที่ชอบไม่ชอบผม ได้รับข้อมูลที่เท็จจริง และมีที่มาที่ไป ไม่ใช่คิดกันไปต่างๆนาๆ เกิดมาเลือกอาชีพนักสู้หรือนักมวยไม่มีใครที่คิดจะหนี เพราะนี่คือ อาชีพและรายได้ที่เราจะได้มันมา ถึงแพ้ชนะก็ได้ค่าตัวครับ ผมมีทุกวันนี้ได้จุดเริ่มต้นมาจากมวยเป็นหลักครับ และผมเองไม่เคยคิดหนีใคร มีรายการมาผมก็ตอบรับทันทีไม่ว่าจะทราบล่วงหน้าหรือไม่ก็ตาม ผมขอชี้แจงเบื้องต้นเพียงเท่านี้ครับ ขอโทษและขอบคุณทุกการซัพพอรต์อีกครั้งครับ ขอบคุณครับ" อดีตแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง ทิ้่งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น