ในปี 2568 สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เตรียมส่งนักกีฬาลุยรายการใหญ่หลายแมตช์เพื่อเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิก 2028 ซึ่งเป็นโอกาสของนักกีฬาเทควันโดทุกคนในการเก็บคะแนนสะสมเนื่องจากสหพันธ์เทควันโดนานาชาติได้รีเซตคะแนนทุกคนเป็นศูนย์ ทำให้สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย จำเป็นต้องส่งนักกีฬาลงแข่งขันทุกรายการไม่ว่าจะเป็นชิงแชมป์เอเชีย ชิงแชมป์โลก หรือ รายการทัวร์ในยุโรป และยังมี ซีเกมส์ กับ เอเชียนเกมส์
อย่างไรก็ตาม ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ย้ำโค้ชเชให้จัดแผนการฝึกซ้อม การเก็บตัว การส่งแข่งมาให้เต็มที่ เพราะเรื่องงบประมาณไม่ใช่ปัญหาของสมาคม เนื่องจากเรามีสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนที่แข็งแรง ซึ่งตนก็ได้บอกว่าอย่าให้เงินเป็นปัญหาต่อการพัฒนานักกีฬา และตนก็สามารถหางบประมาณมาให้บริหารจัดการได้ โดยหวังว่าโค้ชเชจะต้องสร้างนักกีฬาให้เก่งที่สุด และพร้อมที่สุดในหลายๆรายการภายในเวลา 4 ปีก่อนถึงโอลิมปิก 2028 ที่จะมีทั้ง ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ ชิงแชมป์โลก ล้วนแล้วเป็นรายการสำคัญๆ ในการเก็บคะแนนโอลิมปิก 2028 ฉะนั้นทั้งชุดยุวชน เยาวชน และ ชุดใหญ่ ใครดี ใครเก่ง ก็ต้องเรียกตัวเข้าแคมป์
ส่วนเรื่องนักกีฬาคนไหนจะขึ้นมาแทน "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญโอลิมปิกได้ถึง 3 ครั้ง โดยได้ 2 เหรียญทองโอลิมปิก (2020, 2024) กับ 1 เหรียญทองแดง (2016) โดย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ได้เผยว่า ตอนนี้เราก็มีเด็กใหม่ขึ้นมาเยอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้เป็นช่วงรอยต่อ ทำให้จากนี้ไปอีก 4 ปีจะต้องเร่งสร้างนักกีฬา ซึ่งในตอนที่สร้างเทนนิสก็ใช้เวลาหลายปีกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ แต่ตนก็เชื่อว่าสมาคมทำได้แน่นอนเพราะมีระบบการทำงานที่ดี และ โค้ชเช ก็อยู่กับสมาคมมา 20 ปีแล้ว มีความเข้มงวดในการสร้างนักกีฬา ส่วนงบประมาณก็ไม่เป็นปัญหา ทำให้เชื่อมั่นว่าโอลิมปิก 2028 เราจะต้องมีเหรียญรางวัล