คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"
เวทีราชดำเนิน ถือเป็นสนามมวยระดับมาตรฐานหนึ่งในสองแห่งของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างขึ้น โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วเสร็จเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2488
แน่นอนว่าถือเป็นเวทีศักดิ์สิทธิ์นักมวยทุกคนย่อมอยากที่จะได้ขึ้นสังเวียน อีกทั้งมีหลายต่อหลายคนเคยคว้าแชมป์โลกที่นี่มาแล้วไม่ว่าจะเป็น โผน กิ่งเพชร, ชาติชาย เชี่ยวน้อย, เวนิส บ.ข.ส., พเยาว์ พูนธรัตน์, เขาทราย แกแล็คซี่, รัตนพล ส.วรพิน, ชนะ ป.เปาอินทร์ เป็นต้น
ล่าสุดถือเป็นการเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ของเวทีราชดำเนิน ทำให้มีการจัดซูเปอร์ไฟต์ขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคมนี้คู่สำคัญคือ RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน จะขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์รุ่นแบนตัมเวทของเวทีราชดำเนิน กับ วันชัยน้อย ส.ท.เหี่ยวบางแสน เจ้าของเข็มขัดแชมป์รุ่นแบนตัมเวทของเวทีมวยช่อง 7 HD เพื่อพิสูจน์ว่าใครกันแน่ที่คือเบอร์หนึ่งของพิกัดแบนตัมเวทกัน
บอกเลยว่าน่าดูมาก วันชัยน้อย มีความต้องการที่จะขึ้นชิงแชมป์รุ่นแบนตัมเวทของเวทีราชดำเนินกับ ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน มานานแล้ว แต่ก็มีเหตุให้ต้องแคล้วคลาดกันไปเมื่อกลางเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เมื่อ ขุนศึกเล็ก ไปพลาดท่าพ่ายน็อกให้ ริวกิ มาซึดะ นักชกชาวญี่ปุ่น ในศึก RWS Japan จนกระทั่งในศึก RWS ที่เวทีราชดำเนิน เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ก.ย. ขุนศึกเล็ก ล้างตาเอาชนะคะแนน ริวกิ มาซึดะ และคว้าแชมป์รุ่นแบนตัมเวทของเวทีราชดำเนินมาครองเป็นสมัยที่สองได้สำเร็จ
ดังนั้นการเจอกันระหว่าง ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน กับ วันชัยน้อย ส.ท.เหี่ยวบางแสน สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าเป็นไฟต์ที่แฟนมวยตั้งตารอเป็นอย่างมากเพราะทั้งคู่คือนักมวยที่ได้รับการยอมรับจากแฟนๆ ว่าอยู่ระดับแถวหน้าของวงการมวยไทยในยุคนี้ ดังนั้นการโคจรมาเจอกันของทั้งคู่จึงทำให้แฟนๆ รู้สึกสนใจเป็นอย่างมากว่าสุดท้ายแล้ว ศึกครั้งนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ
นับตั้งแต่กลับมาชกมวยไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี วันชัยน้อย ก็ทำฟอร์มสดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่แพ้ใครติดต่อกัน 7 ไฟต์รวด โดยไฟต์ล่าสุดสามารถเอาชนะคะแนน เด่น ศิษย์นายกทวีปตะพง ในศึกมวยไทย 7 HD ที่เวทีมวยช่อง 7 เมื่อ 17 พ.ย. ที่ผ่านมาได้อย่างเด็ดขาด
ขณะที่ ขุนศึกเล็ก หลังจากที่ทวงแชมป์กลับคืนมาได้ก็เพิ่งขึ้นป้องกันเข็มขัดแชมป์เป็นครั้งแรกด้วยการโชว์ฟอร์มสด เอาชนะคะแนน เควิน มาร์ติเนซ ผู้ท้าชิงชาวสเปนในการชกเมื่อ 16 พ.ย. ที่ผ่านมาที่เวทีราชดำเนิน และพร้อมเต็มที่ในการเจอกับ วันชัยน้อย แถมยังพกความมั่นใจมาเต็มอกด้วยว่า เขานี่แหละที่จะเป็นคนหยุดสถิติไร้พ่าย 7 ไฟต์ของวันชัยน้อยเอง
การชกของคู่นี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันกล่าวคือ ใครชนะคะแนนได้แน่นอน 500,000 บาท และหากเป็นการชนะน็อกก็จะได้รับเงินเพิ่มเป็น 1,000,000 บาท แต่ถ้าไม่มีการน็อกเอาต์เกิดขึ้น และทั้งคู่ชกกันได้ดุเดือดเข้าตาก็จะได้โบนัสเพิ่มไปอีกคนละ 250,000 บาท นั่นหมายความว่าหากเป็นไฟต์ดุเดือดผู้ชนะจะได้รับ 750,000 บาท ผู้แพ้จะได้รับ 250,000 บาท เว้นแต่มีการเต้นหรือไม่ออกอาวุธเป็นเวลานานจนถูกกรรมการตักเตือนหลายครั้ง ก็จะงดแจกโบนัสทั้งหมด
โดยในรายการเดียวกันนี้วันเดียวกัน “บัวขาว บัญชาเมฆ” จะขึ้นชกกับหาน เหวินเป่า นักมวยคิกบ็อกซิ่งคนดังจากสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกด้วย