กกท. เตรียมจัดงาน “วันกีฬาแห่งชาติ 2567” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 39 ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมมอบรางวัลนักกีฬาดีเด่น บุคลากรทางการกีฬาดีเด่น และองค์กรกีฬาดีเด่นแห่งปี รวมกว่า 40 รางวัล เชิดชูคนกีฬาไทยที่สร้างชื่อเสียงและผลงานโดดเด่นทั้งในและต่างประเทศ
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า วันที่ 16 ธันวาคมของทุกปี ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของชาติด้านการกีฬาและเป็นวันสำคัญของนักกีฬาไทย เนื่องจาก รัฐบาลได้กำหนดให้เป็น “วันกีฬาแห่งชาติ” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงชนะเลิศได้รับเหรียญทองการจากแข่งขันกีฬาเรือใบประเภท โอ.เค. ในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2510 ซึ่งปัจจุบันคือการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ รวมทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนชาวไทยเห็นคุณค่าและความสำคัญของกีฬา
การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะองค์กรหลักที่รับผิดชอบการจัดงานวันกีฬาแห่งชาติ
ได้เริ่มจัดงานวันกีฬาแห่งชาติ มาตั้งแต่ปี 2529 และในปี 2567 กกท. ได้เตรียมความพร้อมการจัดงาน
“วันกีฬาแห่งชาติ 2567” ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 39 ในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และบุคลากรกีฬา ถือเป็นการยกย่อง เชิดชูเกียรติ ขอบคุณ และให้กำลังใจนักกีฬา บุคลากร รวมทั้งสมาคมกีฬา ที่ได้สร้างผลงานสร้างชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์และนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนและประชาชนหันมาออกกำลังกายและเล่นกีฬาอันจะเป็นประโยชน์ทางสังคมและส่งเสริมให้คนในประเทศชาติมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
สำหรับการมอบรางวัลแก่นักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬา ในงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น
เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2567 ประกอบด้วย รางวัลถ้วยพระราชทานแก่นักกีฬาดีเด่น จำนวน
5 ประเภท 10 รางวัล ได้แก่ นักกีฬาสมัครเล่นชายดีเด่น, นักกีฬาสมัครเล่นหญิงดีเด่น, นักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นชายดีเด่น, นักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นหญิงดีเด่น, นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น, นักกีฬาอาชีพหญิงดีเด่น, นักกีฬามวยไทยอาชีพชายดีเด่น, นักกีฬามวยไทยอาชีพหญิงดีเด่น, นักกีฬาพิการชายดีเด่น และนักกีฬาพิการหญิงดีเด่น รางวัลนักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาดีเด่น จำนวน 6 ประเภท ได้แก่ ชนิดกีฬาทีมดีเด่น (SPORTS) และประเภทกีฬาทีมดีเด่น (EVENTS), ผู้ฝึกสอนกีฬาดีเด่น, สมาคมกีฬาดีเด่น, บุคลากรทางการกีฬาดีเด่น, นักกีฬาอาวุโสดีเด่น รวมทั้งสิ้น จำนวน 40 รางวัล
“กกท. มุ่งเน้นการพัฒนานักกีฬาเป็นเลิศ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ด้วยการส่งเสริมและพัฒนานักกีฬา
อย่างต่อเนื่องในระยะยาว เพื่อสรรหานักกีฬาที่มีศักยภาพ ตลอดจนการผลักดันให้สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยและสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด มีระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้นักกีฬาประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับนานาชาติ” ผู้ว่าการ กกท. กล่าว
ร่วมเป็นกำลังใจและเชิดชูเกียรตินักกีฬาไทยเนื่องใน “วันกีฬาแห่งชาติ 2567” และสามารถติดตาม
ความคืบหน้าการจัดงานได้ที่ www.sat.or.th หรือ Facebook: ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ Elite Sports Development Department