คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"
พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้โม่แข้งผ่าน 10 นัดเซอร์ไพรส์สุดเห็นจะหนีไม่พ้นอันดับ 3 อย่าง "เจ้าป่า" น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทั้งที่ปีที่แล้วจบที่ 17 รอดตกชั้นเป็นทีมสุดท้าย
การที่ ฟอเรสต์ รั้้งอันดับที่ 3 พรีเมียร์ ลีก ณ เวลานี้ ถือเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1998 หลังจากชนะติดต่อกัน 3 นัดในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1999
ผลงานโดดเด่นของ ฟอเรสต์ ภายใต้การคุมทัพของ นูโน เอสปิริโต คือบุกชนะ ลิเวอร์พูล ถึง แอนฟิลด์ 0-1 รวมถึงบุกยันเสมอ เชลซี 1-1 เสียไปเพียงแค่ 7 ประตูจาก 10 นัดมีเพียงจ่าฝูง "หงส์แดง" ที่เสียน้อยกว่าคือ 6 ประตู
เมื่อเดือนธันวาคมปลายปี 2023 คือตอนที่ นูโน่ รับงานคุม ฟอเรสต์ ต่อจาก สตีฟ คูเปอร์ เวลานั้นไม่มีใครเชื่อมือกุนซือชาวโปรตุเกสว่าจะเข้ามาทำให้ "เจ้าป่า" กระเตื้องขึ้น เพราะเขาเอาชื่อเสียงผลงานดีๆ ที่ทำไว้กับ วูล์ฟส์ฯ ไปทิ้งตอนคุม สเปอร์ส ก่อนจะไปคว้าแชมป์ที่ซาอุฯ กับทีม อัล-อิตติฮัด แล้วกลับมายังเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อีกครั้งหนึ่ง
ฟอเรสต์ ปีนี้โดดเด่นเรื่องเกมรับมากเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งต้องยกให้การมาของ นิโคล่า มิเลนโควิช กองหลังเซิร์บวัย 27 ปีที่ย้ายจาก ฟิออเรนติน่า เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัวราว 12 ล้านปอนด์
ส่วนเกมรุกก็ต้องเป็น คริส วูด กองหน้าที่สูงถึง 191 เซนติเมตร มาผลงานเข้าฝักในวัย 32 ปีกดไปแล้ว 8 ประตูจาก 10 นัดบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วูด นั้นทำไปแล้ว 22 ประตูจากการลงสนามเป็นตัวจริง 30 นัดบนเวที พรีเมียร์ ลีก นับตั้งแต่ย้ายจาก นิวคาสเซิล แบบถาวรเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2023
แต่ถ้านับตอนยืมตัวจาก นิวคาสเซิล วูด จะยิงไป 23 ประตู ถือว่ามากกว่าตำนานของ ฟอเรสต์ อย่าง สแตน คอลลีมอร์ ที่ทำเอาไว้ฤดูกาล 1994–95 คือ 22 ประตู
การที่ ฟอเรสต์ ออกสตาร์ทได้ดีเช่นนี้จึงได้มีการนำไปเทียบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อพ้น 10 นัดฤดูกาล 2015-16 ที่ "เดอะ ฟ็อกซ์" สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ทั้งที่มีอัตราต่อรอง 5,000/1
สถิติชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 1 นัดของ ฟอเรสต์ นั้นเหมือนกับของ เลสเตอร์ มิหนำซ้ำ "เจ้าป่า" เก็บคลีนชีตได้มากกว่าทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี ที่คุม เลสเตอร์ ในตอนนั้นหรือเมื่อ 9 ปีก่อนถึง 3 นัดและมีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า 7 ประตู รวมถึง วูด กองหน้าที่ถูกนำไปเทียบกับ เจมี วาร์ดี เรียบร้อยแล้ว
สุดท้ายนี้ก็ต้องดูกันแบบยาวๆ เพราะเพิ่งจะเริ่มต้นฤดูกาล เดือนพฤศจิกายนนี้จนถึงสิ้นปี 2024 จะถือเป็นบทพิสูจน์ชั้นดี จากนี้ ฟอเรสต์ ต้องรับมือ นิวคาสเซิล ตามด้วยไปเยือน อาร์เซนอล
ต่อด้วยเดือนธันวาคม ฟอเรสต์ ไปเยือน 2 นัดติดคือ แมนฯซิตี้ กับ แมนฯยูไนเต็ด รวมถึงยังต้องเจอกับ วิลล่า และ สเปอร์ส อีกด้วย
ถือเป็นเรื่องดีเลยที่เห็น ฟอเรสต์ ฟอร์มดีเช่นนี้ เพราะถือเป็นสโมสรเก่าแก่ของอังกฤษมีดีกรีเป็นถึงแชมป์ยุโรป ยูโรเปียน คัพ 2 สมัยฤดูกาล 1978–79 กับ 1979–80 แถมแฟนบอลไทยรุ่นเก่าๆ ก็รู้จักชื่อเสียงและนักเตะดังๆ ของ "เจ้าป่า" ครั้งอดีตเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นบรรยากาศที่หวนกลับมาให้นึกถึงอีกครั้ง