สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นเจ้าภาพการจัดประชุมใหญ่สหพันธ์รักบี้แห่งเอเชีย โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งประธานคนใหม่ของสหพันธ์รักบี้แห่งเอเชีย และเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรักบี้ 7 คน ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย “Asia Rugby Emirates Sevens Series” สนามสุดท้ายของปี 2024 ระหว่างวันที่ 9-10 พ.ย.2567 ที่สนามบุณยะจินดา
โดยในวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมใหญ่สหพันธ์รักบี้แห่งเอเชีย ก่อนเริ่มประชุม “บิ๊กต้น” พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้กล่าวต้อนรับผู้นำทุกประเทศ และ คณะกรรมการบริหารสหพันธ์รักบี้แห่งเอเชีย โดยวาระในการประชุมจะเป็นเรื่องพูดคุยการดำเนินงานต่างๆที่ผ่านมา และยังมีการพูดคุยในเรื่องการปรับรูปแบบการแข่งขันรักบี้เอเชียซีรีส์ใหม่ในครั้งต่อไป ซึ่งจะมีการเพิ่มจำนวนทีมในระดับพรีเมียร์ และลดสนามแข่งขันเหลือเพียง 2 สนาม สำหรับทีมชายจะเพิ่มเป็น 12 ทีม จากเดิม 8 ทีม และทีมหญิงจะเพิ่มเป็น 12 ทีม จากเดิม 8 ทีม
เมื่อเข้าสู่วาระการเลือกตั้งมีผู้สมัคร 2 คนคือ อาดา มิลบี้ คณะกรรมการบริหารเวิลด์รักบี้ชาวฟิลิปปินส์ จะลงชิงตำแหน่งประธานเอเชียรักบี้ กับ ไกส์ อัล-ดาไล จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประธานสหพันธ์รักบี้แห่งเอเชียคนเดิม โดยมีจำนวนประเทศที่เข้าร่วมประชุมจำนวน 28 ชาติ จากทั้งหมด 36 ชาติ ผลปรากฎว่า ไกส์ อัล-ดาไล เอาชนะ 17-11 เสียง ทำให้นั่งประธานสหพันธ์รักบี้แห่งเอเชียสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
ทางด้าน พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ ได้กล่าวว่า แสดงความยินดีกับ อัล-ดาไล ที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานต่อเป็นสมัยที่ 2 โดยในนามสมาคมรักบี้ไทยก็พร้อมที่จะทำงานร่วม เพราะเราเอเชียด้วยกันต้องจับมือกันเดินหน้าพัฒนาต่อ เรื่องการเลือกตั้งผลแพ้ชนะ ก็เหมือนเกมกีฬา จบเกมก็จับมือหันหน้าหากันร่วมกันพัฒนาต่อไป
ส่วนในเรื่องการปรับรูปแบบการแข่งขันเอเชียซีรีส์ในครั้งต่อไป ซึ่งตนในฐานะนายกสมาคมรักบี้ไทยได้แสดงความเห็นว่าควรยึดตามรูปแบบเดิมที่มีทีมชาย 8 ทีม ทีมหญิง 8 ทีม เพราะว่าศักยภาพของทีมมีไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างทีมชายถ้า ฮ่องกง ทีมอันดับ 1 ไปเจอกับทีมอันดับ 12 รูปเกมก็จะเป็นทางฮ่องกงที่ทำสกอร์อยู่ฝ่ายเดียวมันดูไม่สูสี ส่วนอีกเรื่องคือค่าใช้จ่ายของประเทศที่เป็นเจ้าภาพก็จะเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่ดูแลกัน 16 ทีม ก็จะกลายเป็น 24 ทีม และหากเป็นแบบนั้นจริงๆ สมาคมรักบี้ไทยคงต้องกลับมาคิดกันใหม่ว่าเราควรเป็นเจ้าภาพหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีการประชุมในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งทุกประเทศมีความเห็นตรงกันว่าอยากให้มีการจัดแข่งเฉพาะกลุ่มอาเซียนเพิ่มมากขึ้น และอยากให้ช่วยกันพัฒนาทีมประเภท 15 คน โดยยึดตามโมเดลที่ ไทย, สิงค์โปร์ และ ไชนีสไทเป ประเทศรับเชิญ ร่วมกันจัดรักบี้ 15 คนไตรเนชั่น ซึ่งในครั้งต่อไปก็จะมี ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย เข้าร่วมด้วย และจะนำรูปแบบการแข่งขันนี้นำเสนอเวิลด์รักบี้ให้มีการรับรองการแข่งขัน ให้เหมือนอย่างรักบี้ซิกเนชั่นของทางทวีปยุโรป