คอลัมน์ "TKO" โดย "น็อกเอาต์ แมน"
ได้ฤกษ์คืนสังเวียน ONE อีกครั้ง สำหรับ พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ อีกหนึ่งนักมวยที่โดดเด่นสุดๆ สมัยที่ยังต่อยมวยไทย 5 ยก เพราะเขาคือเจ้าของสมญานาม "ยอดมวย 3 พ.ศ." ได้รับรางวัลนักกีฬามวยไทยยอดเยี่ยมจากการกีฬาแห่งประเทศไทยฯ 3 ปีซ้อน
แม้จะหายหน้าหายตาไปนานราว 2 ปี แต่การกลับมาในหนนี้ของ พันธ์พยัคฆ์ ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง แม้จะยังสนิมเกาะอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีพอที่จะโชว์ทักษะแม่ไม้มวยไทยทุกรูปแบบ เอาชนะ ซิลวิอู วิเตซ จากโรมาเนีย ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ในศึก ONE ลุมพินี 83 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ “พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์” เป็นเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่เกิดและเติบโตในจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีพ่อซึ่งเป็นแฟนมวยตัวยง เป็นผู้ปลูกฝังวิชามวยไทยให้เขาตั้งแต่อายุยังน้อย ร่วมกับพี่ชายต่างแม่
หลังจากขึ้นสังเวียนครั้งแรกในวัย 8 ปี และคว้าชัยชนะด้วยการน็อกเอาต์ พันธ์พยัคฆ์ ยังคงฝึกซ้อมอยู่กับครอบครัวโดยมีแม่เป็นคนล่อเป้าให้ จนกระทั่งอายุได้ 14 ปี เขาจึงย้ายมาอยู่กับค่ายจิตรเมืองนนท์ ภายใต้การดูแลของ "อ้วน เมืองนนท์" และ "ซ้อเอ๋" สุนทรี โลหะพืช
พันธ์พยัคฆ์ สร้างชื่อเสียงด้วยการเป็นแชมป์ 2 รุ่นของสนามมวยมาตรฐานทั้งสองแห่งของประเทศไทยทั้งเวทีลุมพินี และเวทีมวยราชดำเนิน แน่นอนว่าจากฟอร์มการชกที่โดดเด่น ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลนักกีฬามวยไทยยอดเยี่ยมของการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือที่เรียกกันว่า “ยอดมวย” ถึงสามปีซ้อน ระหว่างปี 2013-2015 เป็นคนแรกของประเทศ
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากมายในประเทศไทย พันธ์พยัคฆ์ ตัดสินใจหาประสบการณ์ใหม่กับการโกอินเตอร์ครั้งแรกในชีวิตบนเวทียิ่งใหญ่ระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ ด้วยความใฝฝันว่าจะคว้าแชมป์โลก ONE เพื่อเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูล
ที่น่าจับตามองที่สุดคือการที่ พันธ์พยัคฆ์ มีโอกาสจะได้พบกับคู่ปรับตลอดกาลในชีวิตการชกมวยของเขา อย่าง ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 อีกหน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาประชันฝีมือกับกำปั้นจาก จ.บุรีรัมย์ รายนี้มาแล้วถึง 8 ครั้ง
ถ้าหากนับเฉพาะการชกมวยไทย 5 ยก พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ ในช่วงที่กำลังพีคๆ สามารถเอาชนะแชมป์โลก 2 เส้นรายนี้ไปได้ถึง 4 ไฟต์ เสมอกันไป 1 ไฟต์ ซึ่งถ้าจะบอกว่า ซุปเปอร์เล็ก กลัวใครมากที่สุดในวงการมวยไทย 5 ยก ก็คงหนีไม่พ้น พันธ์พยัคฆ์ คนนี้นี่แหละ
อย่างไรก็ตามเมื่อทั้งคู่ได้โคจรมาพบกับในเวทีระดับโลก อย่าง ONE ที่ต้องเปลี่ยนมาใช้นวมเล็ก 4 ออนซ์ เปิดนิ้ว และมีกติกาการให้คะแนนที่แตกต่างออกไป กลายเป็นฝ่ายของ ซุปเปอร์เล็ก ที่ทำได้ดีกว่า เอาชนะไปได้ทั้งหมด 2 ครั้ง แต่เป็นการเอาชนะกันแบบคะแนนเอกฉันท์ และไม่เอกฉันท์ อย่างละ 1 ไฟต์ เรียกได้ว่าสูสีคู่คี่เสมอ ยามที่ทั้งคู่ต้องมาดวลกัน
ไฟต์สุดท้ายที่ พันธ์พยัคฆ์ ขึ้นชกใน ONE คือเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2022 ที่เขาพ่าย ซุปเปอร์เล็ก แบบคะแนนไม่เอกฉันท์ ก่อนจะหายหน้าหายตาไปพักใหญ่ จนได้ฤกษ์คืนสังเวียนรายการนี้ ซึ่งตัวของ พันธ์พยัคฆ์นั้น ยังมีสัญญากับ ONE Championship อยู่ คือสามารถชกได้ทั้งใน ONE รายการใหญ่ หรือ ONE ลุมพินี
อย่างไรก็ตามตัวของ พันธ์พยัคฆ์ เอง ก็ยังให้สัมภาษณ์แบบถ่อมตัวอยู่เสมอ เขาพูดดักเอาไว้ก่อนเลยว่าถ้าให้เจอกับ ซุปเปอร์เล็ก ชั่วโมงนี้ ตัวเขายังคงเป็นรองอยู่พอสมควร เพราะหายจากสังเวียน ONE ไปนาน จึงขอไฟต์เรียกความมั่นใจสัก 3-4 ไฟต์ก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน ส่วนเป้าหมายยังคงเหมือนเดิมคือเข็มขัดแชมป์โลก ONE
ถึงแม้ปัจจุบัน พันธ์พยัคฆ์ จะยังใช้นามสกุล จิตรเมืองนนท์ แต่เขาไม่ได้ฝึกซ้อมที่นั่นแล้ว โดยย้ายตัวเองไปเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ ไทเกอร์ มวยไทย จ.ภูเก็ต อยู่พักใหญ่ ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่นักชกชาวต่างชาติฝีมือดีมักจะใช้ค่ายมวยแห่งนี้ในการชุบตัว
การคัมแบ็คหนนี้ของ พันธ์พยัคฆ์ ถือเป็นเรื่องดีของรายการ ONE ที่ได้นักชกฝีมือดีในรุ่นฟลายเวต (ไม่เกิน 135 ปอนด์) กลับมาอีกครั้ง เพราะปัจจุบันในรุ่นนี้ นอกจาก รถถัง และซุปเปอร์เล็ก หรือ ก้องธรณี ที่เพิ่งขึ้นมาไม่นานแล้ว นักชกชาวไทยรายอื่นๆ ก็ยังไม่มีใครเรียกเรตติ้งได้ดีเท่าไหร่ ก็ต้องมารอลุ้นกันว่า "ยอดมวย 3 พ.ศ." จะทำได้ดีเพียงใด