บัลติมอร์ เรฟเวนส์ พลิกจากตามหลัง 10 แต้ม ชนะ แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส 41-31 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่สนามเรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม วันอังคารที่ 22 ตุลาคม
ลามาร์ แจ็คสัน ควอเตอร์แบ็กผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 2 สมัย อาจกำลังอยู่ในฟอร์มดีสุดของอาชีพ ขว้างระยะ 281 หลา 5 ทัชดาวน์ ยืดสถิติ บัลติมอร์ เป็นชนะ 5 เกมรวด โดยทำสกอร์ 7 จาก 9 การครองบอล ก่อนถูกจับนั่งพัก ขณะเหลือเวลาน้อยกว่า 2 นาที
แจ็คสัน ขยับสถิติส่วนตัวเป็นชนะ 23 แพ้ 1 เฉพาะการเจอกับคู่แข่งสายเอ็นเอฟซี (NFC) ดีสุดเฉพาะตำแหน่งควอเตอร์แบ็ก เมื่อเผชิญหน้าทีมต่างคอนเฟอเรนซ์ของประวัติศาสตร์ NFL รวมสถิติ ชนะ 3 แพ้ 0 พบ บัคคาเนียร์ส (ชนะ 4 แพ้ 3) ซึ่งเกิดอาการแผ่ว นับตั้งแต่ขึ้นนำ 10-0 โดย ไมค์ อีแวนส์ ปีกนอก รับทัชดาวน์ลูกที่ 100 ตลอดอาชีพ
อย่างไรก็ตาม อีแวนส์ บาดเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง (ต้นขาด้านหลัง) จังหวะพยายามรับบอลจาก เบเกอร์ เมย์ฟิลด์ ควอเตอร์แบ็ก ตรงเขตเอนด์ โซน และถัดมาปลายควอเตอร์ 4 ซึ่งสกอร์ขาดลอยแล้ว คริส ก็อดวิน ปีกนอกตัวเก่ง แทมปา เบย์ ถูกหามออกเนื่องจากอาการเจ็บข้อเท้าซ้าย
เกมนี้ แจ็คสัน ขว้างคอมพลีต 17 จาก 22 ครั้ง ไม่เสียอินเทอร์เซ็ปต์ รวม 2 สกอร์ ให้ มาร์ก แอนดรูว์ส ระยะ 9 กับ 4 หลา และยังขว้างทัชดาวน์ให้ ราช็อด เบตแมน ปีกนอก ระยะ 49 หลา, จุสติซ ฮิลล์ ระยะ 18 หลา และ เดอร์ริค เฮนรี รันนิงแบ็ก ระยะ 11 หลา
เรฟเวนส์ (ชนะ 5 แพ้ 2) คืนชีพหลังทีมรับตื่นตัวช้า โดย มาร์ลอน ฮัมฟรีย์ คอร์เนอร์แบ็ก (ตัวคุมปีก) สร้างจุดเปลี่ยนของเกมด้วย 2 อินเทอร์เซ็ปต์ ช่วงควอเตอร์ 2 ทำให้ แจ็คสัน เล่น 4 เพลย์ ระยะ 80 หลาจบด้วยทัชดาวน์ และ จัสติน ทัคเกอร์ เตะฟิลด์โกล 28 หลา แซงนำ 17-10 ช่วงพักครึ่ง
ด้าน เมย์ฟิลด์ จบเกมขว้างเข้าเป้า 31 จาก 45 ครั้ง ระยะ 370 หลา 3 ทัชดาวน์ เสีย 2 อินเทอร์เซ็ปต์ ขณะที่ อีแวนส์ ทาบสถิติรับ 100 ทัชดาวน์ของเหล่าตำนานอย่าง เจอร์รี ไรซ์, แรนดี มอสส์, มาร์วิน แฮร์ริสัน และ เทอร์เรลล์ โอเวนส์ ตลอด 11 ซีซันแรกของอาชีพล
ผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง ที่สนาม สเตท ฟาร์ม สเตเดียม คายเลอร์ เมอร์เรย์ ควอเตอร์แบ็ก อริโซนา คาร์ดินัลส์ วิ่งฉีกทีมรับระยะ 44 หลาทัชดาวน์ ช่วงต้นควอเตอร์ 4 แล้วขับเคลื่อนทีมบุกนำไปสู่ฟิลด์โกล 32 หลาของ แชด ไรแลนด์ โดยไม่เหลือเวลาสำหรับแก้ตัว เอาชนะ แอลเอ ชาร์เจอร์ส หวุดหวิด 17-15