คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"
หลังจากที่ เรด บูล เข้าเทกโอเวอร์เมื่อปี 2009 แอร์เบ ไลป์ซิก เลื่อนชั้นสู่ บุนเดสลีกา ได้ในปี 2016 หลังจากนั้นผลงาน 8 ฤดูกาลคือยอดเยี่ยมจบนอกท็อปโฟร์เพียงแค่ครั้งเดียวและเป็นการจบรองแชมป์ถึง 2 ครั้ง คว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 2 ครั้งฤดูกาล 2021–22 กับ 2022–23 รวมถึงเคยเข้าถึงรอบตัดเชือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ผลงานดังกล่าวของ ไลป์ซิก เกิดขึ้นท่ามกลางการขายนักเตะออกไปแทบทุกซัมเมอร์จนกลายเป็นความเคยชินแฟนบอลไม่รู้สึกว่าสิ่งนี้คือสัญญาณของหายนะ อย่างช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาก็ปล่อย ดานี่ โอลโม่ จอมทัพวัย 26 ปีให้กับ บาร์เซโลน่า แลกกับเงิน 51 ล้านปอนด์ หลังจากนักเตะทำผลงานยอดเยี่ยมพา สเปน คว้าแชมป์ ยูโร 2024
สำหรับ โอลโม่ ถือเป็นการกลับ บาร์เซโลน่า อีกครั้งรอบ 10 ปี หลังเคยเป็นนักเตะเยาวชนอยู่แคมป์ปั้นดาวรุ่งอันเลื่องชื่ออย่าง ลา มาเซีย ก่อนย้ายไปอยู่กับ ดินาโม ซาเกร็บ เมื่อปี 2014 ครั้งอายุ 16 ปีแล้วเป็น ไลป์ซิก ไปซื้อมาเมื่อต้นปี 2020
ที่เอ่ยมาคือโมเดลการทำทีมที่ ไลป์ซิก ยึดถือมาโดยตลอดคือพัฒนานักเตะแล้วขายต่อทำกำไรจากนั้นก็หาดาวรุ่งคนใหม่มาทดแทน แน่นอนว่าแนวทางนี้มีหลายทีมเคยทำมาก่อน แต่พอขาดช่วงปั้นนักเตะขึ้นมาแทนไม่ทัน รวมถึงซื้อมาไม่เข้าตากลายเป็นขาดทุนและฉุดทีมจนผลงานตกต่ำตกชั้นหรือล้มละลายไปเลยก็มีให้เห็นมาแล้ว
ที่ผ่านมา ไลป์ซิก ขายทั้ง นาบี เกอิต้า, อิบราฮิมา โคนาเต้ และ โดมินิก โซโบซไล ให้กับ ลิเวอร์พูล รวมถึง ดาโยต์ อูปาเมกาโน ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ไปอยู่กับ เชลซี รวมถึงปล่อย ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เงินเข้าทีมมากเป็นสถิติสโมสรคือ 77 ล้านปอนด์
จนมีคนมาแย้งว่าหาก ไลป์ซิก เก็บนักเตะทั้งหมดที่ขายออกไปเอาไว้ป่านนี้คงคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน หรือไม่ก็แชมป์ยุโรป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว ทว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แนวทางการทำทีมจากการเปิดเผยของ มาร์เซล ชาเฟอร์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายกีฬาของทีม
ชาเฟอร์ เผยว่า "หากคุณไปรั้งนักเตะที่ต้องการย้ายไปเล่นให้ เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า ปีหน้าพวกเขาเหล่านี้จะเป็นคนเดิมอยู่อีกหรือไม่ความมุ่งมั่นทุ่มเทจะเหมือนเดิมหรือเปล่า ดังนั้นเราไม่คิดที่จะเก็บนักเตะเอาไว้นาน 5 ถึง 10 ปีแล้วคว้าแชมป์ทุกถ้วย เราไม่ทำเช่นนั้น แต่เราต้องการดาวรุ่งที่มีความกระหายอยู่เสมอ"
"ตอนนี้นักเตะต้องการย้าย ไลป์ซิก เพราะว่าเป็นโมเดลนี้ เรามีศักยภาพไม่ใช่แค่เยอรมนีเท่านั้น แต่หมายถึงทั่วทั้งยุโรป เราจึงเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบสำหรับดาวรุ่งในช่วงเวลาหนึ่งที่จะผลักดันให้พวกเขาย้ายสู่ทีมอีกระดับหนึ่ง ซึ่งเราต้องยอมรับความจริงว่ามีอีกหลายทีมที่เหนือกว่าเราอีกมากมาย" ชาเฟอร์ เผย
ซัมเมอร์ที่ผ่านมา ไลป์ซิก คว้าตัว อันโตนิโอ นูซ่า แนวรุกนอร์เวย์วัย 19 ปีเข้ามาเสริมทัพ รวมถึง อัสซาน อูเอดราโอโก กองกลางเยอรมันวัย 18 ปีจาก ชาลเก้ ต่อด้วย อาร์เธอร์ เวอร์เมเรน กองกลางดาวรุ่งที่ยืมตัวมาก่อนในช่วงแรก, มาร์เท่น ฟานเดอวูร์ดต์ ผู้รักษาประตูวัย 22 ปี และ ลุตชาเรล เกียร์ตรุยดา กองหลังวัย 24 ปี เข้ามาเสริมทัพ
ขณะที่แกนหลักยังมี เบนจามิน เซสโก้ กองหน้าวัย 21 ปีที่พัวพันกับ อาร์เซนอล รวมถึง ชาบี้ ซิมอนส์ กองกลางที่ยืมใช้งานต่อจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และกำลังหาทางซื้อขาด เพราะนักเตะนั้นก็อยากจะย้ายมาเล่นให้ ไลป์ซิก แบบถาวร เนื่องจากสามารถการันตีโอกาสลงสนาม แล้วจากนั้นค่อยหาทางขยับขยาย เพราะเพิ่งอายุ 21 ปีเท่านั้น
ดังนั้นแล้วโมเดลของ ไลป์ซิก เป็นอะไรที่ลอกเลียนแบบยากมาก เนื่องจากปัจจัยไม่ได้อยู่ที่ตัวนักเตะเท่านั้น แต่ว่าคุณต้องมีโค้ชที่เก่ง ทีมงานสต๊าฟฟ์ที่ยอดเยี่ยม รวมถึงจะต้องมีอะคาเดมี่ที่ดีด้วย ไหนจะแมวมองอีก อย่างล่าสุดทีมก็ดันนักเตะวัย 16 ปีอย่าง วิกโก เกเบล เด็กท้องถิ่นประเดิมสนามไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย