ทีมรักบี้เยาวชนหญิงไทย เสียเปรียบเรื่องรูปร่างและเหลือผู้เล่นเพียง 6 คนในต้นครึ่งหลังของรอบชิงชนะเลิศแต่ก็ยังสู้สุดใจคว้ารองแชมป์เอเชีย ยู-18 มาครอง ส่วนทีมชายจบอันดับ 7 ด้าน "บิ๊กต้น" พอใจกับผลงานของทีมชุดนี้ แม้ว่าจะมีเวลาเก็บตัวเพียง 2 สัปดาห์ก่อนเดินทางไปแข่งขัน และต้องกลับมาแก้ไขในเรื่องความแข็งแกร่งที่ยังสู้คู่แข่งไม่ได้ โดยจะต้องมีการเวทเทรนนิ่งให้มากขึ้น
การแข่งขันรักบี้ 7 คน ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี (Asia Rugby Emirates U18 Sevens 2024) โดยไทยส่งทีมเยาวชนเข้าร่วมชิงชัยทั้งทีมชายและทีมหญิง โดยทีมชายนั้นมี 9 ทีม ทีมไทย รอบแรก อยู่กลุ่มบี ที่มี ฮ่องกง, ศรีลังกา, ไต้หวัน ส่วนกลุ่มเอ มี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ซาอุดิอาระเบีย และ อินเดีย ขณะที่ทีมหญิง มี 6 ทีมคือ ไทย, อินเดีย, ฮ่องกง, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยจะแข่งแบบพบกันหมด แล้วนำอันดับ 1-2 ไปชิงชนะเลิศ
ทีมหญิงไทยแม้จะเป็นรองเรื่องรูปร่างที่เล็กกว่าแต่ก็พาตัวเองทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ กับ ฮ่องกง ได้สำเร็จจากการที่มีเฮดทูเฮดดีกว่า อินเดีย โดยในรอบชิง ไทยโดน ฮ่องกง ที่ได้เปรียบเรื่องรูปร่างและความแข็งแกร่งออกนำไป 19-0 จุด แต่ก่อนจบครึ่งแรกไทยได้คืนมา 1 ทรัยไล่มาเป็น 5-19 จุด ทว่าครึ่งหลังเล่นได้เพียงไม่กี่วินาที ทีมไทยโดนใบแดงเนื่องจากผู้ตัดสินมองว่าไทยวิ่งเข้าไปแท็กเกิ้ลสูง ซึ่งค้านสายตาของ “บิ๊กต้น” นายกรักบี้ไทย ว่าไม่น่ารุนแรง ถึงกับโดนใบแดงเลยต้องเล่น 6 คน ในเวลาที่เหลือ ซึ่งเป็นข้อเสียเปรียบอย่างยิ่งในรักบี้ 7 คนทำให้สุดท้ายไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของ ฮ่องกง แพ้ไป 5-31 จุด ได้รองแชมป์เอเชีย ยู-18 ส่วนทีมชายนั้นได้เข้าไปชิงอันดับ 7 และ ชนะ อินเดีย 26-14 จุด ส่งผลให้คว้าที่ 7 ไปครอง
ขณะที่ "บิ๊กต้น" พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่เฝ้าติดตามรับชมผ่านการถ่ายทอดสดทุกแมตช์ของทีม ยู-18 เปิดเผยว่า ภาพรวมถือว่าดี โดยเฉพาะทีมหญิงที่สามารถคว้ารองแชมป์มาได้ ในสภาพที่เราเสียเปรียบในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่เล็กกว่า ความแข็งแรงที่น้อยกว่า และที่สำคัญคือเราต้องเล่น 6 คนในครึ่งหลัง ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับใบแดง มองว่าให้แค่ใบเหลืองก็หนักแล้วสำหรับการแทคเกิล ในลูกนั้น ส่วนทีมชายนั้น 3 เกมแรกเล่นเกมรับไม่ดีจังหวะแท็กเกิ้ลไม่จับต่ำ ชอบไปคว้าเขา เกมบุกก็ไม่เล่นเป็นระบบ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเป็นส่วนใหญ่ แต่มาเล่นดีในฟอร์มที่ควรจะเป็นของรักบี้ 7 คน ตอนนัดชิงอันดับ 7 แล้วเราก็ชนะ ซึ่งก็สายไปแล้ว ทำให้ทีมชายได้อันดับ 7 จากทั้งหมด 9 ทีม ซึ่งทีมชายนั้นเล่นด้วยความสามารถเฉพาะตัวกันล้วนๆ แต่หากเพิ่มทีมเวิร์ค ระบบแผนการเล่นให้มากกว่านี้จะดีแน่นอน เพราะนักกีฬาส่วนใหญ่ มีความสามารถเฉพาะตัวสูงก็จริง แต่พึ่งจะรวมทีมเพียง 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณนักกีฬาทุกคน สต๊าฟโค้ชทั้ง 2 ทีม ที่มีใจสู้ไม่ยอมแพ้ แม้เราจะเป็นรองแทบทุกอย่าง ทั้งรูปร่างและความฟิต
พ.ต.ท.กุลธน ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาดของสมาคมฯ ด้วยเช่นกัน ที่มีเวลาเก็บตัวทีมชุด ยู-18 น้อยมาก เพียง 2 สัปดาห์ก่อนเดินทางไปแข่งขัน เนื่องจากนักกีฬาชุดนี้ยังเป็นเด็กนักเรียนไม่สามารถมาซ้อมแบบเต็มเวลาเหมือนทีมชาติไทยชุดใหญ่ โดยเฉพาะทีมหญิงซึ่งมาจากต่างจังหวัดทุกภาคของประเทศ การประสานขอตัวแต่ละโรงเรียนก็ยาก และไม่เหมือนกัน นั่นคือปัญหาของสมาคมฯ ที่ต้องหาทางแก้ไข เพราะทีมชุดนี้ยังมีเวลาอีกมาก บางคน แค่ ม.4 อายุ 16 ปี แต่ทีมเยาวชน ทั้ง 2 ชุดนี้ขาดเรื่องการเวทเทรนนิ่ง ดูได้จากการแข่งขันที่เรายังไม่แข็งแรง ตรงส่วนนี้จะต้องนำไปแก้ไข แต่การที่ทีมหญิงได้รองแชมป์เอเชีย และ ทีมชายได้อันดับ 7 ก็ถือว่าไม่เสียหาย จากนี้ไปโปรแกรมทีมรักบี้ 7 คนทีมชาติไทยจะอัดแน่นในเดือน พ.ย.นี้ โดยต้นเดือนจะเป็น Asia Rugby Sevens Series ที่ไทยเป็นเจ้าภาพวันที่ 9-10 พ.ย.2567 และ รักบี้ 7 คนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ที่อินเดีย วันที่ 23-24 พ.ย.2567 ที่สำคัญรายการนี้ทีมหญิง ยู-20 ไทยเป็นแชมป์เก่าด้วย ต้องรักษาแชมป์ให้ได้ ส่วนทีมชายต้องเฟ้นหาตัวที่ดีที่สุด จากรายการ 7 คนชิงแชมป์ประเทศไทยในเดือน ต.ค.นี้ พ.ต.ท. กุลธน กล่าว
