ดัลลัส คาวบอยส์ หยุดสถิติแพ้ 2 เกมติดต่อกันแก่ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ และ นิว ออร์ลีนส์ เซ็นต์ส เอาชนะ นิว ยอร์ก ไจแอนท์ส 20-15 ศึกอเมริกัฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่สนามเม็ตไลฟ์ สเตเดียม วันศุกร์ที่ 27 กันยายน ตามเวลาไทย
แด็ก เพรสคอตต์ ควอเตอร์แบ็กผู้ไม่เคยปราชัยแก่ ไจแอนท์ส ตลอดการเล่นตัวจริง 13 เกมล่าสุด ขว้างบอลแผนสกรีนระยะ 15 หลา ให้ ริโก ดาวเดิล รันนิงแบ็ก ขึ้นนำ 7-3 ควอเตอร์แรก ต่อมา เพรสคอตต์ ขว้างทัชดาวน์ 55 หลาให้ ซีดี แลมบ์ ปีกนอก ปิดไดรฟ์การบุกชุดนี้ด้วยโทษยั่วยุคู่ต่อสู้
แลมบ์ ฝ่าด่าน 2 ผู้เล่นทีมรับ วิ่งเข้าเอนด์ โซน แล้วปาบอลกลับไปหาคู่ต่อสู้ ทำท่าเบ่งกล้าม เป็นเหตุให้ผู้ตัดสินโยนธง ข้อหาแสดงพฤติกรรมไม่มีน้ำใจนักกีฬา
เกมนี้ คาวบอยส์ (ชนะ 2 แพ้ 2) ได้ เพรสคอตต์ ขว้างบอลเข้าเป้า 22 จาก 27 ครั้ง ระยะ 221 หลา แลมบ์ รับบอล 7 ครั้ง ระยะ 98 หลา และ แบรนดอน ออเบรย์ เตะ 2 ฟิลด์โกลระยะ 60 และ 40 หลา ทว่าเสีย ไมกาห์ พาร์สันส์ ไลน์แบ็คเกอร์โจมตีเกมขว้าง บาดเจ็บขาถูกหามออกจากสนามควอเตอร์ 4
ขณะที่ ไจแอนท์ส (ชนะ 1 แพ้ 3) ไม่สามารถทำทัชดาวน์เกมเหย้า 2 เกมติดต่อกัน หลังพ่ายเกมเปิดซีซันแก่ มินเนโซตา ไวกิงส์ 6-28 โดย เกร็ก โจเซฟ เตะฟิลด์โกลระยะ 52,41, 38, 22 และ 42 หลา ถึงแม้ทีมบุกครองบอลนาน 35 นาที 37 วินาที
ปัญหาของ นิว ยอร์ก คือ เล่นงานทีมป้องกันวิ่งแย่สุดของลีกไม่ได้ ทำระยะแค่ 26 หลา จากการถือบอล 24 ครั้ง ตามสถิติ คาวบอยส์ เสียระยะเฉลี่ยจากเกมวิ่ง 185.7 หลา
พลังแขนของ แดเนียล โจนส์ ยื้อความหวังของ ไจแอนท์ส คอมพลีต 29 จาก 40 ครั้ง ระยะ 281 หลา ขว้างให้ มาลิก เนเบอร์ส ปีกรุกกี้ 12 ครั้ง ระยะ 115 หลา และ แวน'เดล โรบินสัน ปีกนอก 11 ครั้ง ระยะ 71 หลา
เนเบอร์ส ออกจากสนามท้ายเกมเนื่องจากคอนคัสชัน (สมองกระทบกระเทือน) และ โจนส์ เสียอินเทอร์เซ็ปต์ไดรฟ์การบุกสุดท้ายของเกม หลัง ออเบรย์ ตัวเตะ ดัลลัส พลาดฟิลด์โกลระยะ 51 หลา ต่อลมหายใจ เจ้าถิ่น