“กองทุนกีฬา" เดินสายต่อเนื่องครั้งที่ 3 จ.สุพรรณบุรี (ภาค 2) จัดกิจกรรมสนทนากลุ่ม ร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ภาคกลาง ในโครงการติดตาม และประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการที่ขอรับการส่งเสริม หรือสนับสนุนจากกองทุนฯ ประจำปี 2567 ร่วมรับฟังปัญหา กระชับความสัมพันธ์ เพื่อปรับจูนร่วมกันในการแก้ไขปัญหา เพื่อพัฒนาคุณภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมให้คำแนะนำการใช้เงินให้ถูกต้องตามระเบียบราชการ เพื่อช่วยลดปัญหาการเบิก-จ่าย งบประมาณ
กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับ คณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เดินสายต่อเนื่องในการจัดกิจกรรมสนทนากลุ่มสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด 5 ภาค ภายใต้โครงการ ติดตาม และประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการที่ขอรับการส่งเสริมหรือสนับสนุนจากกองทุนฯ ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยล่าสุดยกทีมเดินสายต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 จังหวัดสุพรรณบุรี (ภาค 2) เมื่อวันที่ 13-14 กันยายน 2567 ณ โรงแรมศรีอู่ทอง
ภายในงานได้รับเกียรติจาก พลเอก ดร.สุภมนัส ภารพบ ประธานอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พร้อมด้วย นายแพทย์อรรถฤทธิ์ ศฤงคไพบูลย์ อนุกรรมการฯ, นายชนาสิน สิมะดำรงค์ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, นายชนาสิน สิมะดำรงค์ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, นายธัชนาถ ทองประกอบ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผน กกท., นางภาสินี พันธุมะบำรุง ผู้อำนวยการกองติดตามและประเมินผล ฝ่ายนโยบายและแผน กกท., นางสาวภิม นครศรี หัวหน้างานส่วนกองทุนกีฬา และเจ้าหน้าที่ กกท., กองทุนฯ ได้ร่วมกันพูดคุยรับฟังปัญหาของสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ในภาคกลาง และชี้แจงแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก่อนสรุปผลการประชุม และทิศทางในการดำเนินงานต่อไป
พลเอก ดร.สุภมนัส ภารพบ ประธานอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับความคาดหวังของคณะอนุกรรมการติดตามฯ ภาคนี้เป็นครั้งที่ 3 เรามั่นใจว่าระยะห่าง และความแตกต่างทางกระบวนการทางความคิด รวมทั้งความไม่เข้าใจกันจะแคบลง ซึ่งเราได้มอบหมายให้ทางกองทุนฯ กำหนดระบุผู้ที่จะต้องติดต่อประสานงาน และตอบคำถาม ในฐานะผู้ที่มีความต้องการ และผู้ตอบสนอง จะต้องปรับจูนเข้ากันให้ได้
“ผมคาดหวังว่า หลังจากเสร็จสิ้นโครงการนี้ ทางกองทุนฯ กับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยทั้ง 90 สมาคม จะได้นำแนวทางพัฒนาความร่วมมือระหว่างกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ในการดำเนินงานให้ถูกต้องตามระเบียบราชการ เพื่อช่วยลดปัญหาการเบิก-จ่าย งบประมาณ ได้แน่นอนครับ”
ด้านนางสาวภิม นครศรี หัวหน้างานส่วนกองทุนกีฬา กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวว่า จากการจัดสัมมนาโครงการนี้ 2 ภาคที่ผ่านมา และที่ภาคกลางในครั้งนี้ ทำให้เห็นภาพรวมของปัญหาในหลายด้านที่กองทุนฯ ให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นตัวงบประมาณ ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอสำหรับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดที่จะต้องพัฒนานักกีฬาจากระดับเยาวชน หรือรากหญ้า โดยปัญหาใหญ่ๆ ที่เราเห็นคือ 1.เรื่องงบประมาณ และ 2.เรื่องการอนุมัติเงินที่มีความล่าช้า ซึ่งกองทุนฯ พยายามที่จะแก้ไขปัญหา โดยนำเทคโนโลยีในระบบยื่นคำขอ และระบบต่างๆ ให้เป็นออนไลน์ มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อนำมาใช้พัฒนาวงการกีฬา และช่วยให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น
“เรื่องที่เราได้สัมผัส และเรียนรู้จากสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด จะเห็นได้ว่าเขาให้ความสำคัญกับกีฬาของชาติเป็นอย่างมาก ซึ่งทางกองทุนฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นและให้ความสำคัญ นำงบประมาณที่ได้มาสนับสนุนให้กับสมาคมกีฬา นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการกำหนดตัวชี้วัดในการสนับสนุน ก็จะต้องมีข้อกำหนดที่เข้มข้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพตามเป้าหมาย โดยที่ผ่านมา 3 ภาค เราได้มาสัมผัส และเรียนรู้ ร่วมกัน ถือเป็นโครงการที่ดี และคิดว่าจะต้องทำต่อไป เพื่อรับฟังปัญหา และนำปัญหาที่เกิดขึ้นกลับไปแก้ไขให้เกิดประสิทธิภาพ และมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ในการให้บริการ การสนับสนุน รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดในอนาคต”
ทั้งนี้ โครงการ ติดตาม และประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการที่ขอรับการส่งเสริม หรือสนับสนุนจากกองทุนฯ ประจำปี 2567 จะมีการจัดกิจกรรมสนทนากลุ่ม สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดทั้ง 5 ภาค ซึ่งครั้งต่อไป จะจัดเป็นครั้งที่ 4 ที่จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน 2567 ณ โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า หาดใหญ่ และปิดท้าย ครั้งที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 27-28 กันยายน 2567 ณ โรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ เทอมินอล
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ https://nsdf.or.th/
หรือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ชั้น 3 เลขที่ 286 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 โทร. 02-186-7111