“อาลีฟ” เล็งฝ่าด่านแกร่ง “ซากาเรีย” เก็บแต้มชัยแรกในศึก ONE Fight Night และไม่ทิ้งฝันปะทะฝีมือ “ทองพูน” ในวันข้างหน้า
“อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” มวยหนุ่มลูกครึ่งมาเลย์-ไทย วัย 20 ปี พร้อมทุ่มสุดตัวเจอกับ “ซากาเรีย เอล จามารี” จอมบู๊วัย 34 ปี จากโมร็อกโก ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 128 ป. ศึก ONE Fight Night 24 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07:00 น. ของวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.67 พร้อมเผยไม่ปิดโอกาสดวลฝีมือ “ทองพูน พีเค.แสนชัย” ในอนาคต
สำหรับ “อาลีฟ” เกิดที่ประเทศมาเลเซีย คุณพ่อเป็นคนไทยมีพื้นเพมาจากจังหวัดนราธิวาส ส่วนคุณแม่เป็นชาวมาเลเซีย เมื่ออายุ 14 ปี ได้ย้ายมาฝึกซ้อมมวยไทยที่ค่ายมวย ส.เดชะพันธ์ ก่อนโชว์ผลงานชนะ 4 ไฟต์รวดในศึก ONE ลุมพินี จนกลายเป็นนักกีฬา ONE ลุมพินี คนที่ 7 ที่คว้าสัญญา ONE มาครอง
ไฟต์ล่าสุด “อาลีฟ” เปิดตัวบนเวทีระดับโลกพลาดท่าแพ้ “El Jéfe” เอลลิส บาร์โบซา นักชกสหราชอาณาจักร มาแบบไม่เอกฉันท์ ในศึก ONE Fight Night 23 เมื่อ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ที่เจ้าตัวพร้อมนำข้อผิดพลาดไปปรับปรุง เพื่อกลับมาในแบบที่แกร่งขึ้น ออกล่าแต้มชัยแรกในศึกนี้ให้ได้
เดิมที “อาลีฟ” ถูกประกบให้ดวลกับ “ทองพูน” แต่เนื่องจากอีกฝ่ายเกิดป่วยกะทันหันจึงต้องขอถอนตัว ก่อนจะได้ “ซากาเรีย” ตอบรับขึ้นสังเวียนแทนในไฟต์นี้ โดย “อาลีฟ” เชื่อว่าตนยังมีโอกาสได้วัดแกร่ง “ทองพูน” บนสังเวียนในสักวันหนึ่ง
“ตอนทราบว่าเจอกับ พี่ทองพูน ผมคิดว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ดูเหมือนมาเจอกันเร็วเกินไป ผมตื่นเต้นมาก เพราะอยากเจอ พี่ทองพูน ตั้งแต่ตอนที่ตัวเองยังไม่ได้เซ็นสัญญานักกีฬา ONE สุดท้ายเขาถอนชกเพราะมีอาการป่วย ผมก็เข้าใจได้ ถึงไม่ได้เจอกันในตอนนี้ ผมมั่นใจว่าไม่ช้าก็เร็ว ในอนาคต เราสองคนได้เจอกันแน่นอน ผมขอให้ พี่ทองพูน รีบหายป่วยไว ๆ ถ้าฟิตเต็มร้อยเมื่อไหร่ เรากลับมาเจอกันครับ”
ก่อนจะไปถึงวันนั้น “อาลีฟ” ต้องเต็มที่กับการเจอกับ “ซากาเรีย” เสียก่อน โดยเน้นศึกษาไฟต์ที่คู่ชกรายนี้เอาชนะคะแนน “ทองพูน” ในศึก ONE Fight Night 22 เมื่อ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา มาเป็นอย่างดี พร้อมนำข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“ผมมองว่า ซากาเรีย มีความเร็วมากกว่า พี่ทองพูน จุดเด่นอย่างเดียวของเขาคือหมัด เหตุผลที่ พี่ทองพูน พลาดท่าแพ้ในวันนั้นเพราะเขาไล่ตามความเร็วของ ซากาเรีย ไม่ทัน ส่วนตัวผมในการเจอกับความเร็วของ ซากาเรีย คิดว่าไม่มีปัญหาแน่นอน ความเร็วของผมไม่ได้เป็นรอง ซากาเรีย ถ้าเขาคิดจะหนียังไงผมก็จะไล่ตามทันครับ”
สองไฟต์หลังสุด “อาลีฟ” สะกดคำว่าชนะไม่เป็น ทำให้เจ้าตัวตั้งใจมากที่จะคืนฟอร์มเก่งเอาชนะ “ซากาเรีย” ให้ได้ โดยเตรียมอาวุธลูกที่ตัวเองถนัดมาแบบครบมือ พร้อมโชว์ให้แฟนมวยทุกคนได้ชมกัน
“ตอนนี้ผมกระหายที่อยากจะชนะมาก ถ้ามีโอกาสก็พร้อมที่จะปิดเกมให้เร็วที่สุด รูปเกมน่าจะออกมาสนุก พี่เขามีแต่หมัด ต่อยหนัก ผมแค่ต้องระวังป้องกันตัวเองให้ดีเท่านั้น ผมคิดว่าตัวเองได้เปรียบในเรื่องความสูงยาว น่าจะใช้จุดนี้มาเล่นงานเขาได้ ฝากถึงแฟนชาวไทยและมาเลย์ ช่วยเชียร์ผมด้วยครับ”