"อัศวินสีส้ม" เนเธอร์แลนด์ส ชวดได้ประตูชัยจาก ซาบี ไซมอนส์ มิดฟิลด์อนาคตไกล เสมอ "ตราไก่" ฝรั่งเศส 0-0 ศึกยูโร 2024 รอบแรก ที่สนามไลป์ซิก สเตเดียม คืนวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน
ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส กุนซือ ฝรั่งเศส ใส่ชื่อ คีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้ากัปตันทีม เป็นสำรอง หลังจมูกหัก นัดเปิดสนามของกลุ่ม D เอาชนะ ออสเตรีย 1-0 ส่ง มาร์คุส ตูราม กับ อองตวน กรีซมันน์ เป็นคู่หูแดนหน้า
ฝรั่งเศส พลาดโอกาสทองแบบเหลือเชื่อนาที 14 มาร์คุส ตูราม ตอกส้นให้ อาเดรียง ราบิโอต์ หลุดเดี่ยวล่อเป้ากับ บาร์ต แฟร์บรูกเกน นายทวาร แต่ใจกว้างเกินเหตุ เลือกจ่ายให้ อองตวน กรีซมันน์ จนยิงไม่ถนัด ต่อมา เนเธอร์แลนด์ส ตอบโต้นาที 16 โคดี กักโป ตัวรุกฝั่งซ้าย ลากตัดแล้วยิงด้วยขวานอกเขต ไมค์ เมญอง นายทวาร พุ่งปัดออกหลัง
"เลอ เบลอส์" เริ่มครองบอลมากกว่า นาที 63 อุสมาน เดมเบเล โยนจากริมเส้นด้านขวาให้ ออเรเลียง ชูอาเมนี โหม่งข้ามคานนิดเดียว จากนั้นนาที 65 เอ็น'โกโล ก็องเต เคาะจังหวะเดียวให้ อองตวน กรีซมันน์ จับแล้วยิงด้วยซ้ายโดนไม่เต็ม ติดเซฟ บาร์ต แฟร์บรูกเกน นายทวาร ออกหลัง
เข้าสู่นาที 69 กองเชียร์ "ออรันเย" ส่งเสียงเฮเก้อ ไมค์ เมญอง เซฟลูกยิงของ เมมฟิส เดปาย ไม่พ้นอันตราย ซาบี ไซมอนส์ ซ้ำตุงตาข่าย แต่ถูกวิดีโอช่วยตัดสิน (VAR) ริบคืน เนื่องจาก เดนเซล ดุมฟรีส ยืนล้ำหน้า และขวางการเซฟของ เมญอง จบเกม ฝรั่งเศส เก็บเพิ่มเป็น 4 แต้ม เท่ากับ เนเธอร์แลนด์ส โดยเป็น 2 ทีมนำของกลุ่ม D
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เนเธอร์แลนด์ส (4-2-3-1) : บาร์ต แฟร์บรูกเกน, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ก, สเตฟาน เดอ ไฟรจ์, นาธาน อาเก, เดนเซล ดุมฟรีส, ซาบี ไซมอนส์, ทิยานี ไรจ์นเดอร์ส, เยอร์ดี ขูเทน, เมมฟิส เดปาย, โคดี กักโป, เจเรมี ฟริมปง
ฝรั่งเศส (4-4-1-1) : ไมค์ เมญอง, วิลเลียม ซาลิบา, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, ธีโอ เฮร์นานเดซ, ฌูลส์ กุนเด, ออเรเลียง ชูอาเมนี, อาเดรียง ราบิโอต์, เอ็น'โกโล ก็องเต, อองตวน กรีซมันน์, มาร์คุส ตูราม, อุสมาน เดมเบเล
ผลการแข่งขันกลุ่ม E ยูเครน จุดประกายความหวังเข้ารอบน็อกเอาท์ หลัง โรมัน ยาเร็มชุก กองหน้าตัวสำรอง ยิงประตูชัยท้ายเกม แซงชนะ สโลวาเกีย 2-1 ที่สนามดุสเซลดอร์ฟ อารีนา
ยูเครน ตามหลังช่วงพักครึ่ง ด้วยประตูของ อิวาน ชรานซ์ นาที 17 แต่ ทีมของ เซอร์เก เรบรอฟ พลิกสถานการณ์อย่างเหลือเชื่อ มอบความสุขแก่กองเชียร์
สโลวาเกีย ซึ่งพลิกล็อกชนะ เบลเยียม 1-0 นัดเปิดสนาม จะการันตีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย กรณีเก็บ 3 คะแนนเต็ม แต่หลังเริ่มเกมอย่างน่าประทับใจ กลับได้รับบทเรียนจากการตั้งรับมากเกินไป
มิโกลา ชาปาเรนโก ตามตีเสมอ 1-1 นาที 54 จากนั้น ยาเร็มชุก ดูดบอลวางยาวของ ชาปาเรนโก แล้วสะกิดผ่าน มาร์ติน ดูบราฟกา นายทวาร นาที 80 จบเกม ยูเครน เก็บเพิ่มเป็น 3 แต้ม จาก 2 นัด เท่ากับ สโลวาเกีย
ผลการแข่งขันกลุ่ม D ออสเตรีย ปลุกความหวังเข้ารอบน็อกเอาท์ ยูโร 2024 โดยเอาชนะ โปแลนด์ 3-1 ด้วยประตูของ เกอร์น็อต เทราเนอร์, คริสตอฟ บอมการ์ตเนอร์ และจุดโทษของ มาร์โก อาร์เนาโตวิข ที่สนามโอลิมปิกสตาเดียน กรุงเบอร์ลิน
ทีมของ ราล์ฟ รังนิค ซึ่งพ่ายแก่ ฝรั่งเศส 0-1 นัดแรก ต้านทานแรงฮึดของ โปแลนด์ ช่วงครึ่งแรก ซึ่งตามตีเสมอ 1-1 นาที 30 และเกือบแซงนำก่อนเกิดอาการแผ่วครึ่งหลัง
ส่งผลให้ โปแลนด์ แพ้ 2 นัดติดต่อกัน ไม่มีแต้ม ขณะที่ ออสเตรีย เก็บเพิ่มเป็น 3 แต้ม จาก 2 นัด เท่ากับ เนเธอร์แลนด์ส และ ฝรั่งเศส
