คอลัมน์ “TKO" โดย "น็อกเอาต์ แมน"
เสร็จสิ้นไปแล้วสำหรับ ศึกเพชรยินดี x Pryde TV รายการมวย 5 ยก ที่จ่ายเงินค่าตัวรวมให้กับนักมวยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ เวทีมวยราชดำเนิน
ไฟต์ดังกล่าวคู่เอก ระหว่าง ชูเจริญ ดาบรันสารคาม ปะทะ ขุนหาญเล็ก สิงห์มาวิน ในรุ่น 143 ปอนด์ ทั้ง 2 คน ได้รับค่าตัวไปคนละ 120,000 บาท ขณะที่คู่รอง อย่าง กุมารดอย เพชรยินดีอะคาเดมี พบ เจริญสุข สจ.โต้งปราจีน ฝ่ายแรกได้ค่าตัว 100,000 บาท ส่วนฝ่ายหลังได้ค่าตัวไป 80,000 บาท
แน่นอนว่ารายการนี้ถือเป็นรายการมวยไทย 5 ยก ที่แจกค่าตัวให้แก่นักมวยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ คู่เอกได้ค่าตัวคนละ 1.2 แสนบาท ส่วนคู่เปิด แหลมโพธิ์ ปะทะ สิงห์ดำ ได้ค่าตัวต่ำที่สุดคือคนละ 50,000 บาท แถมผู้ชนะตั้งแต่คู่ที่ 1-8 ได้รับเงินรางวัลพิเศษทุกคนอีกด้วย
ที่สำคัญยังมีการเผยแพร่คลิปของ "เสี่ยโบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ปิดห้องคุยเปิดอกกับนักชกทั้ง 16 คน กำชับว่า "ห้ามมีการเต้น" เด็ดขาด มิเช่นนั้นจะอดได้โบนัสในทุกกรณี อนุญาตให้เดินดูทรงในช่วงท้ายยก 5 ได้ไม่เกิน 30 วินาที หากมั่นใจว่าตัวเองจะชนะ
หลังจาก "เสี่ยโบ๊ท" โปรโมเตอร์หนุ่มจากค่ายมวยเพชรยินดี หักกับ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ปธ.วัน แชมเปียนชิพ เขาก็พยายามดิ้นรนเอาตัวรอดหาทางออกให้แก่วงการมวย 5 ยก อยู่ตลอด ทั้งการไปจับมือเป็นพันธมิตรระยะยาวกับเวทีมวยราชดำเนิน หรือพยายามช่วยคนในวงการมวย 5 ยกให้อยู่รอดต่อไป
เจ้าตัวชูสโลแกนที่ว่า "ต่อยมวย 5 ยก ก็รวยได้" มาเป็นจุดขาย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ารายการใหญ่ 2-3 ครั้งที่ผ่านมา ที่เพชรยินดี จัดขึ้น ณ เวทีมวยราชดำเนิน ทุกๆ 3-4 เดือน นักมวยที่ขึ้นชกนั้นได้ค่าตัวเยอะจริงๆ
ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ประกาศผ่านโซเชียลมาโดยตลอดว่าเขาต้องการลบคำดูถูก และลบข้อครหาในวงการมวย 5 ยก เพราะก่อนหน้านี้นับตั้งแต่มีรายการมวยไทย 3 ชก เช่น วัน แชมเปียนชิพ หรือ RWS เข้ามา รายการมวย 5 ยก ในไทยก็ดูซบเซาลงไปเรื่อยๆ
แฟนหมัดมวย (ไม่นับเซียนพนัน) หันไปดูมวย 3 ยกกันมากกว่า เพราะต่อยกันสนุก และเร้าใจกว่า ไม่เหมือนมวย 5 ยก รายการธรรมดาทั่วไปที่ทุกวันนี้เรายังเห็นนักมวย "เต้น" กันอยู่ในยกที่ 5 แบบไม่ออกอาวุธเลยก็มี ถ้าไม่นับพวกเซียนพนันที่เข้าไปดูเพื่อลงเดิมพันในแต่ละครั้งแล้ว ก็แทบไม่มีคนดูที่เป็นแฟนกีฬาทั่วไปอีกเลย
"หลังจากนี้เราจะได้พบกับรายการใหญ่ทุกเดือน นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจทำมากๆเพื่อตอบแทนนักมวยและหัวหน้าคณะทุกๆคนในสังกัดเพชรยินดี ที่ร่วมกันต่อสู้ร่วมกันจนถึงวันนี้" เสี่ยโบ๊ท กล่าวก่อนจัดรายการใหญ่ ศึกเพชรยินดี x Pryde TV
"สำคัญที่สุดคือคือการลบคำดูถูกต่างๆนาๆ ที่หาว่ามวยไทย5ยกมันจบแล้ว ไปไม่รอดแล้ว ผมนี่แหละจะทำให้ทุกคนได้ดู ว่าผมทำได้"
สิ่งที่เราได้เห็น "เสี่ยโบ๊ท" ทำมาตลอดหลังจากที่เขาประกาศแยกทางกับ วัน แชมเปียนชิพ คือการดิ้นรนแบบสุดขีดเพื่อลบคำดูถูกให้กับวงการมวยไทย 5 ยก ถึงแม้เราจะต้องยอมรับกันตรงๆ ว่า หากไม่นับรายการใหญ่ที่เพชรยินดีจัด มวยไทย 5 ยก ก็ยังคงเป็นมวยไทย 5 ยก นักมวยก็ยังคงออกไปเต้นกันอยู่ และมีปัญหาดราม่าในเรื่องต่างๆ อยู่เป็นประจำ เช่น ปัญหาการล้มมวย หรือปัญหาการตัดสินของกรรมการ
ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ "เสี่ยโบ๊ท" เข้ามาดูแลและจัดการเรื่องนี้แบบจริงๆ จังๆ ถึงแม้จะยังทำได้ไม่เต็ม 100 เปอร์เซนต์ แต่อย่างน้อยเราก็ได้ความพยายามของโปรโมเตอร์หนุ่มรายนี้ที่จะทำให้วงการมวย 5 ยก ยังคงรันวงการมวยไทยต่อไปได้เรื่อยๆ ถึงแม้การจ่ายค่าตัวจะยังไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับ วัน แชมเปียนชิพ หรือ ONE ลุมพินี ก็ตาม