สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย จัดแถลงข่าวใหญ่ ศึกมวยสากลชิงตั๋วโอลิมปิก 2024 ระหว่างวันที่ 24 พ.ค.-2 มิ.ย.2567 ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก โดยมีนักสู้จากทั่วโลกเดินทางมาชิงชัย 1,460 คน จาก 144 ประเทศ ซึ่งไทยส่ง 6 กำปั้นลงล่าตั๋วคือ จ่าโท รุตชการญ์ จันทร์ตรง รุ่น 57 กก.ชาย, สิบตำรวจโท พีรภัทธ์ เยียะสูงเนิน รุ่น 71 กก.ชาย, สิบตำรวจโท วีระพล จงจอหอ รุ่น 80 กก.ชาย, อาสาสมัครทหารพราน จักรพงศ์ ยมโคตร รุ่น 92 กก.ชาย, จ่าตรีหญิง นิลาวัลย์ เตชะสืบ รุ่น 57 กก.หญิง และ สิบตำรวจโทหญิง ใบสน มณีก้อน รุ่น 75 กก.หญิง
พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยได้กล่าวในงานแถลงว่า เราเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้วสำหรับการแข่งขันระดับโลก ในส่วนของกีฬามวยสากลเป็นกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย แม้ว่าปัจจุบันนี้ต่างชาติจะหันมาพัฒนากีฬามวยสากลให้ยกระดับขึ้นมา ดังนั้นการที่ไทยได้สิทธิ์เข้าไปแข่งโอลิมปิกก็ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมแล้ว เป้าหมายคือการคว้าเหรียญโอลิมปิก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย
ด้าน พันตำรวจโท วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนมวยสากลหญิง เผยว่า เราเตรียมตัวมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในสนามนี้ที่ถือว่าเป็นสนามสุดท้ายในการคว้าตั๋วไปโอลิมปิก 2024 นักกีฬาเราซ้อมหนักทุกวัน ซ้อมเช้า ซ้อมบ่าย และยังมีเทคนิคของวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยด้วยทำให้นักสู้หญิงมีความแข็งแรงมากขึ้น
ขณะที่ ร้อยตรี สุฤทธิ์ ยิ่งกำแหง หัวหน้าผู้ฝึกสอนมวยสากลชาย เผยว่า เรายังมีหวังอีก 4 รุ่น ซึ่งเราได้เปรียบเรื่องสภาพอากาศและเสียงเชียร์ ที่สำคัญเรานำข้อผิดพลาดรอบคัดเลือกที่อิตาลีมาปรับปรุงแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาศักยภาพสมรรถภาพของนักกีฬาให้ดียิ่งขึ้น
ส่วน 6 นักมวยสากลไทยที่คว้าตั๋วไปโอลิมปิก 2024 แล้วมีดังนี้ สิบตำรวจโท ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด รุ่น 51 กก.ชาย, บรรจง สินศิริ รุ่น 63.5 กก.ชาย, เรือตรีหญิง จุฑามาศ รักสัตย์ รุ่น 50 กก.หญิง, จ่าอากาศตรีหญิง จุฑามาศ จิตรพงศ์ รุ่น 54 กก.หญิง, ธนัญญา สมนึก รุ่น 60 กก.หญิง และ จ่าอากาศตรีหญิง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง รุ่น 66 กก.หญิง