การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ดึกของคืนวันเสาร์ที่ 13 เมษายน 2024 ในเวลา 23.30น. “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังลุ้นท็อปโฟร์จะยกพลไปเยือนถิ่นไวตาลิตี้ สเตเดี้ยม ของ “เดอะ เชอร์รีส์” เอเอฟซี บอร์นมัธ
โดยในเกมนี้ บอร์นมัธ ที่ยังแอบมีลุ้นพื้นที่ยุโรปไม่มี มาร์คุส ทาเวอร์เนียร์ ส่ง ดานโก้ ควอตตาร่า ลงประสานงานเกมรุกกับ จัสติน ไคลเวิร์ต, หลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า และโดมินิค โซลันกี้ ส่วนแมนฯยูไนเต็ด ยังมีปัญหาแนวรับจำเป็นต้องใช้ดาวรุ่งอย่าง วิลลี่ คัมบวาล่า ลงจับคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
เริ่มเกมมาทั้งสองทีมเปิดแลกเข้าใส่กันทันที จนนาทีที่ 16 บอร์นมัธ มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากความผิดพลาดของ วิลลี่ คัมบวาล่า แนวรับดาวรุ่ง แมนฯยูไนเต็ด โดนล็อกหัวทิ่ม ก่อนที่ โดมินิค โซลันกี้ จะกดด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ อองเดร์ โอนาน่า เสียบมุมเข้าไปแบบเฉียบขาดเป็นประตูที่ 17 ของเขาในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้
หลังเสียประตู แมนฯยูไนเต็ด เรียกสติกลับมาเดินหน้าบุกเข้าใส่ จนนาทีที่ 30 ก็มาได้ประตูตามตีเสมอ 1-1 อเลฮานโดร การ์นาโช่ เปิดเข้ากลางบอล อิลเลีย ซาบาร์นยี่ สกัดผิดเหลี่ยมกลายเป็นไปตั้งให้ บรูโน่ เฟอร์นานเดส กดเต็มข้อระยะ 5 หลา แสกหน้า เนโต้ นายทวารเจ้าถิ่น
นาทีที่ 35 บอร์นมัธ มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากการขึ้นเกมทางซ้าย มาร์กอส เซเนซี่ ลากจากแนวรับก่อนจะจ่ายให้ จัสติส ไคลเวิร์ต ลากจี้แนวรับก่อนกดด้วยขวาแบบหักข้อบอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไป
จากนั้นทั้งสองทีมต่างก็มีโอกาสได้ประตูเพิ่ม น่าเสียดายที่ส่องชนคานไปฝั่งล่ะหน ทำให้จบครึ่งแรก บอร์นมัธ ออกนำ แมนฯยูไนเต็ด 2-1
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง รูปเกมของทั้งสองทีมถือว่าสูสีมีโอกาสได้กันทั้งคู่ แต่นาทีที่ 65 ความพยายามของแมนฯยูไนเต็ด ก็มาประสบผลสำเร็จได้ประตูตามตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะได้จุดโทษที่ อดัม สมิธ ไปทำแฮนด์บอล และเป็น บรูโน่ เฟอร์นานเดส ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไป เป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้
รูปเกมเป็นเจ้าถิ่นที่ครองบอลบุกเข้าใส่ได้มากกว่า สร้างโอกาสหลายครั้ง แต่จบไม่คม ส่วน แมนฯยูไนเต็ด พอจะมีลุ้นบ้าง แต่ก็ไม่ชัดเจน
ทำให้จบเกม เอเอฟซี บอร์นมัธ เปิดบ้านเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-2 หล่นไปรั้งอันดับ 7 ของตารางมี 50 คะแนน เท่ากับอันดับ 6 อย่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด