สมาคมกีฬายิมนาสติก มองการณ์ไกลเตรียมจัด 2 รายการใหญ่ ยิมลีลาชิงแชมป์ประเทศไทย และ “ปากัว” รวมอยู่ที่เดียวกัน โดยบรรดานักกีฬาต่างชาติยืนยันเข้าร่วมแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าเป็นการเดินที่ถูกทาง เพราะเป็นการสร้างแนวทางสปอร์ตทัวร์ริสซึ่ม และส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างเศรษฐกิจไทย ตามนโยบายของรัฐบาล ย้ำความสามารถ การเคลื่อนไหว และ ความเร็ว นักกีฬาไทยไม่ตกเป็นรองชาติใดในโลก
จากการที่ สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย โดย น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมฯ จัดการแข่งขันกีฬา “ปากัว” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่สหพันธ์ยิมนาสติกนานาชาติ (FIG) ให้การรับรอง และจัดแข่งที่เมืองไทยเป็นครั้งที่ 2 (ครั้งแรกหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์) และล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 ที่ลานหน้าโรงแรมอมารี เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้รับความสนใจจากบรรดานักกีฬาระดับเยาวชนไทย และต่างชาติเข้าร่วมแข่งขันกันจำนวนหลายสิบคน ซึ่งเป็นกีฬาที่ท้าทายความสามารถ แข่งขันในด้านความเร็ว การเคลื่อนไหว โดยใช้เวลาเป็นตัวตัดสิน ภายใต้การถ่ายทอดกติกาขั้นพื้นฐาน และ ควบคุมการแข่งขันโดย น.ส.จิรภิญญา พัฒนศักดิ์ และ น.ส.กานต์พิชชา พัฒนศักดิ์ 2 อดีตนักกีฬายิมนาสติกลีลาทีมชาติไทย ในฐานะผู้แทนจากสมาคมกีฬายิมนาสติกฯ ส่งผลให้การแข่งขันประสบความสำเร็จเกินคาด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากความสำเร็จที่จัดแข่งขัน “ปากัว” ครั้งนี้ มีเสียงเรียกร้องให้ จัดแข่งขันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปีนี้สมาคมกีฬายิมนาสติกฯ เตรียมจัดการแข่งขัน “ออมสิน ยิมนาสติกลีลาชิงแชมป์ประเทศไทย” ในระหว่างวันที่ 10-14 สิงหาคม 2567 ณ เทอมินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นรายการใหญ่ระดับประเทศ รวมทั้งได้เปิดโอกาสให้นักกีฬายิมนาสติกลีลาจากชาติอาเซียน และ ชาติในทวีปเอเชียเข้าร่วมแข่งขันด้วย เหมือนเช่นทุก ๆ ปีที่ผ่านมา
แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือในปีนี้ได้วางแผนเตรียมจัดแข่งขันกีฬา “ปากัว” ผนวกเข้าไปด้วย เพื่อมุ่งหวังสร้างนักกีฬาดาวรุ่งของไทยให้พัฒนาสู่ระดับเอเชียอย่างจริงจัง เนื่องจากกีฬาปากัว ขณะนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาในแถบเอเชียและยุโรปกันอย่างแพร่หลาย หลายชาติต่างยินดีที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ดังนั้น นอกจาก ยิมนาสติกลีลา และ ยิมนาสติกศิลป์ แล้ว กีฬาปากัว เป็นอีก 1 ชนิดกีฬา ที่สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เตรียมจัดการแข่งขันควบคู่กับยิมนาสติกทุกชนิด เพื่อสร้างนักกีฬาสู่ระดับสากล ในปีแรกไม่หวังผลเลิศเนื่องจากเป็นการชิมลางที่จัดในไทย แต่สิ่งที่ได้คือเรื่อง สปอร์ตทัวร์ริสซึ่ม และ ส่งเสริมเศรษฐกิจของไทยตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนเรื่องผลการแข่งขันยังเชื่อว่า ทั้งความเร็ว การเคลื่อนไหว รวมทั้งไหวพริบ และ ปฏิภาณ นักกีฬาไทย ไม่ตกเป็นสองรองชาติใดรับรองว่าสนุกอย่างแน่นอน