จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมฟุตบอลไทยลีกนัดที่ 22 ที่ ราชบุรี เอฟซี แพ้ สุโขทัย เอฟซี 0-1 โดยเกมนี้มีจังหวะดราม่าในช่วงช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+4 ตอนที่ ราชบุรี ตามหลังอยู่ 0-1 เมื่อ กรวิชญ์ ทะสา กองหน้าของราชบุรี ยิงเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าว่าจังหวะจ่ายของ “ไทรอน เดล ปิโน” นั้นฟาวล์ไปก่อนแล้ว ทั้งที่เมื่อดูจากภาพช้า เดล ปิโน เข้าถึงบอลก่อนชัดเจน ทำให้ ราชบุรี อดได้ประตูตีเสมอ
จนเป็นเหตุให้ “เสี่ยฟลุ๊ค” ธนวัชร นิติกาญจนา ประธานสโมสราชบุรี เอฟซี โพสต์เดือด ซึ่งมีใจความว่า การทําหน้าที่ผิดพลาดของผู้ตัดสิน สําหรับผมๆคิดว่าคนเราสามารถทําผิดพลาดกันได้ “แต่มันต้องดูที่เจตนา”
ผู้ตัดสินยืนอยู่ใกล้มากๆจากจุดเกิดเหตุ เห็นทุกอย่างชัดเจน ตอนแรกผมเลือกที่จะปล่อยให้เกมไหลไปก่อนโดยไม่เป่าฟาวล์ในทันที แต่พอบอลมาเข้าทางเราแล้วเรามีโอกาสยิง ทันไดนั้นผู้ตัดสินเลือกที่จะตัดเกมเพื่อตัดโอกาสการตีเสมอ
การที่ผู้ตัดสินอยู่ใกล้เหตุการณ์ขนาดนั้นแล้วเลือกปฏิบัติแบบนี้ มันแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่เลวร้าย ซึ่งตอนนี้แฟนบอลไทยทุกคนก็ได้เห็นเหตุการณ์นี้กันหมดแล้ว และถ้าผมยังอยู่ในสมาคมชุดนี้ ผมขอประกาศศึกกับผู้ตัดสินที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าผู้ตัดสินคนนี้ยังได้ขึ้นมาเป่าไทยลีกอีก ถือว่าผมแพ้และผมจะเป็นคนลาออกเอง
ล่าสุดวันที่ 1 เมษายน “เสี่ยฟลุ๊ค” ได้เดินทางมาประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอล แล้วได้เปิดเผยกับเรื่องนี้ว่า ในอดีตที่ผ่านมาความผิดพลาดของผู้ตัดสินเกิดขึ้นได้ แต่ยุคนี้เรามีเทคโนโลยีมาช่วยการตัดสิน ความผิดพลาดมันก็ควรน้อยลงไป แต่เหตุการณ์ในเกมล่าสุดถ้ากรรมการไม่รีบเป่าปล่อยให้เกมดำเนินตาอไปแล้วค่อยมาดู VAR ผมเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งภาพที่ออกไปทำให้เรามีความเคลือบแคลงใจถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินท่านนี้ จึงเป็นที่มาของการที่เราทำเรื่องขึ้นมาให้คณะกรรมการบริหารสมาคมพิจารณาว่าผู้ตัดสินท่านนี้มีเจตนาอย่างไร
ส่วนเรื่องการจับฉลากไม่ได้จะมีต่อไป 2-3 ปี แต่เราทำขึ้นมาเพียงแก้ไขปัญหาเบื้องต้น แต่ก็จะมีข้อจำกัดเพราะผู้ตัดสินที่จะเข้าห้อง VAR จะต้องผ่านการอบรม ซึ่งผู้ตัดสินที่ผ่านการอบรมเป็น VAR ได้ก็มีไม่มาก ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำอย่างเร่งด่วนคือการเปิดอบรมให้มีผู้ตัดสิน VAR มากขึ้น ก็เลยส่งผลไปถึงผู้ตัดสินคนอื่นที่มีประสบการณ์น้อยมาเป่าเกมไทยลีก ซึ่งคนที่มีประสบการณ์มากสมควรทำหน้าที่ในสนามบางครั้งต้องเข้าไปทำหน้าที่ในห้อง VAR