“เสี่ยฟลุ๊ค” ธนวัชร นิติกาญจนา ประธานสโมสรราชบุรี เอฟซี โพสต์ข้อความถึงเกมดราม่าไทยลีก หลังทีมชวดได้ประตูตีเสมอ ในเกมเยือน สุโขทัย
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในเกมไทยลีก ที่ราชบุรี ออกไปพ่ายต่อ สุโขทัย 0-1 โดยเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ กรวิชญ์ ทะเล ส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว ทว่า วุฒิพงษ์ เกตุคำ ผู้ตัดสินชี้ขาดในเกมนี้มองว่าเป็นการฟาวล์ไปก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้มาเยือนชวดได้ประตูตีเสมอ
หลังจบการแข่งขัน เพจอย่างเป็นทางการของสโมสร ราชบุรี ได้โพสต์ข้อความ พร้อมลงชื่อประธานสโมสร ว่าจังหวะดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ อัปยศ และ เลวร้ายที่สุด การกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำร้ายฟุตบอลไทยอย่างที่สุด พร้อมทิ้งท้ายว่า ให้ย้อนดูจังหวะดังกล่าว ว่าเป็นการโกงหรือไม่
ล่าสุด ประธานสโมสรราชบุรี เอฟซี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง โดยมองว่าจังหวะดังกล่าวนั้นผู้ตัดสินเลือกที่จะตัดเกม ทั้งๆที่ราชบุรีมีโอกาสในการยิงประตู พร้อมระบุขอประกาศศึกกับผู้ตัดสินที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าผู้ตัดสินคนดังกล่าวยังได้ขึ้นมาเป่าในไทยลีกอีก เจ้าตัวจะลาออกจากสภากรรมการสมาคมฟุตบอล
จากโพสต์ของ เสี่ยฟลุ๊ค ระบุว่า “ผมขอพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้นะครับ”
“หลังจากได้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล ผมก็ได้เข้าร่วมประชุม 1ครั้งกับสมาคมในฐานะสภากรรมการ 2ครั้งประชุมไทยลีกในฐานะประธานสโมสรราชบุรีเอฟซี”
“ทุกครั้งก็จะมีการพูดถึงประเด็นผู้ตัดสินในหลายๆแง่มุม
1ในนั้นก็คือการทําหน้าที่ผิดพลาดของผู้ตัดสิน สําหรับผมๆคิดว่าคนเราสามารถทําผิดพลาดกันได้ “แต่มันต้องดูที่เจตนา”
“สีขาวก่อนจะเปลี่ยนเป็นดํา มันจะเป็นสีเทาก่อน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมส์เมื่อวาน มันไม่เป็นเทาเลย มันคือการทําขาวเป็นดํา ที่ผู้มีอำนาจใช้อํานาจในทางที่ผิด”
“ผู้ตัดสินยืนอยู่ใกล้มากๆจากจุดเกิดเหตุ เห็นทุกอย่างชัดเจน ตอนแรกผตสเลือกที่จะปล่อยให้เกมส์ไหลไปก่อนโดยไม่เป่าฟาวล์ในทันที แต่พอบอลมาเข้าทางเราแล้วเรามีโอกาสยิง ทันไดนั้นผตสเลือกที่จะตัดเกมส์เพื่อตัดโอกาสการตีเสมอ”
“การที่ผู้ตัดสินอยู่ใกล้เหตุการณ์ขนาดนั้นแล้วเลือกปฏิบัติแบบนี้ มันแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่เลวร้าย”
“ซึ่งตอนนี้แฟนบอลไทยทุกคนก็ได้เห็นเหตุการณ์นี้กันหมดแล้ว ผมรู้ดีว่าการที่ผมพูดแบบนี้ไม่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ แต่ผมขอให้เคสผมเป็นเคสสุดท้ายและขออย่าได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับทีมไหนอีกเลย”
“ปลาเน่าตัวเดียวสามารถทําให้ทั้งเข่งเน่าได้คํานี้คงไม่แรงเกินไป (กับวงการผู้ตัดสิน) และถ้าผมยังอยู่ในสมาคมชุดนี้ ผมขอประกาศศึกกับผู้ตัดสินที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าผู้ตัดสินคนนี้ยังได้ขึ้นมาเป่าไทยลีกอีก ถือว่าผมแพ้และผมจะเป็นคนลาออกเอง”
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเคสนี้จะช่วยสร้างผู้ตัดสินท่านอื่นที่รักในอาชีพผู้ตัดสินจริงๆ และจะทําให้คนทําทีมและแฟนบอลสามารถชมเกมส์ฟุตบอลที่เรารักอย่างสบายใจปราศจากมารผจญสืบต่อไป #ขออย่าให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับใครอีกเลย”