บิเซนเต ลูเก นักสู้อเมริกันเชื้อสายบราซิล ออกมาเรียกร้องให้ โจอาควิน บัคลีย์ คู่แข่งรายต่อไปออกมาสร้างความบันเทิงและความมันส์ให้กับผู้ชมในศึก UFC FIGHT NIGHT : BLANCHFIELD VS FIOROT จะระเบิดศึกกัน ณ สังเวียน Boardwalk Hall ,แอทแลนติก ซิตี้ สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม นี้ พร้อมกับเปิดเผยประสบการณ์การเป็นนักฟุตบอลในตำแหน่งผู้รักประตู รวมทั้งตั้งเป้ามาเรียนวิชา มวยไทย ที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกให้ได้ภายในปีนี้ด้วย
นักสู้อเมริกันเลือดแซมบ้าวัย 32 ปี เจ้าของสถิติชนะ 22 แพ้ 9แนะนำตัวเองให้กับแฟน UFC Thailand โดยเปิดเผยว่า “สวัสดีครับผม บิเซนเต ลูเก ผมเป็นนักสู้ UFC รุ่นเวลเตอร์เวต ผมคือสไตร์เกอร์ที่ดุดันที่มองหาการน็อกเอาต์หรือทำซับมิทชันอยู่เสมอ ผมเป็นแฟนตัวยงของการต่อสู้และพร้อมที่โชว์ให้แฟนๆเห็น เช่นเดียวกับแฟนๆชาวไทยที่จะได้เห็นแอคชั่นสุดมันส์ โดยเฉพาะการปิดเกมของผม”
สำหรับไฟต์ต่อไป "The Silent Assassin" จะพบกับ โจอาควิน บัคลีย์ นักสู้อเมริกันวัย 29 ปีที่มีสถิติชนะ 17 แพ้ 6 และชนะมา 2 ไฟต์ติดต่อกัน โดยก่อนขึ้นสังเวียน ลูเก ได้กล่าวถึงความพร้อมของตัวเองว่า
“ผมเตรียมตัวสำหรับไฟต์นี้มาดีมากๆ ทั้งการปรับสภาพร่างกาย คาร์ดิโอ รวมไปถีงทักษะต่างๆ มันคือการฝึกซ้อมที่เข้มข้น เพราะเห็นได้ชัดว่า โจอาควิน เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและดุดัน ดังนั้นนั่นคือเหตุผลที่ผมคาดหวังการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น และผมก็พร้อมแล้วด้วย”
“ผมคิดว่า โจอาควิน ก็พร้อมจะนำสไตล์การต่อสู้แบบเอ็นเตอร์เทนคนดูมาใช้เช่นกัน เขามีสไตล์การต่อสู้ที่แตกต่าง นั่นคือสิ่งที่ผมเตรียมพร้อมสำหรับไฟต์นี้ ผมคิดว่าผมมีประสบการณ์มากกว่าดังนั้นผมจึงสามารถเข้าไปที่นั่นและใช้ค่อยๆเล่นงานเขา และรอจังหวะที่จะปิดบัญชี เราจำเป็นต้องวางแผนอย่างแยบยลสำหรับไฟต์นี้”
นอกจากนี้ ลูเก ยังกล่าวถึงความใฝ่ฝันแรกเริ่มของตัวเอง ที่ต้องการกลายเป็นนักมวยไทยระดับชั้นนำ พร้อมกับเล่าถึงการเริ่มเรียนศาสตร์มวยไทยในวัย 15 ปีว่า
“ผมเริ่มฝึกมวยไทยเมื่ออายุ 15 ปี นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงเป็นจอมสไตร์เกอร์ ความฝันขผมคืคือการไปฝึกซ้อมมวยไทยที่ประเทศไทย แต่ผมไม่ค่อยมีเวลา แต่ตอนนี้ผมจะหาเวลาไปเยือนประเทศไทยให้ได้ สำหรับ มวยไทย แน่นอนว่าผมผ่านประสบการณ์นั้นมาแล้ว มีเพื่อนของผมมากมายที่เคยฝึกมวยไทยด้วยกันที่โรงเรียนตอนอายุ 15 ปี พวกเขาฝึกมวยไทยนิดหน่อย ส่วนผมก็ดู MMA เยอะมากๆ”
“ผมแฟนตัวยงของ Shogun ด้วย เพราะมีสไตล์การต่อสู้ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นบราซิลกับมวยไทยเข้าด้วยกัน ผมเคยเรียนคาราเต้ ตั้งแต่อายุ 3-10 ขวบ แต่ผมไม่ชอบเลย เลยไม่ได้สนใจมันมากนัก ผมอยากทำสิ่งอื่นมากกว่า แต่เมื่อผมได้ฝึกมวยไทยตอนอายุ 15 ปี มันทำให้ผมตกหลุมรัก ผมฝึกเป็นเวลาครึ่งปี ผมแพ้ในการชกมวยไทยครั้งแรก แต่ผมรู้ว่านี่คือสิ่งที่ผมต้องการทำไปตลอดชีวิต”
“หลังจากผ่านไป 2 ปี ผมก็ตัดสินใจไปต่อสู้ในรูปแบบ MMA เพราะมันมีสถานที่ฝึกเยอะมากในบราซิล มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง อาจไม่ได้รับความนิยมมากนักใน ในบราซิล นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องออกไปข้างนอก ตอนแรกเริ่มผมความฝันอยากเป็นนักมวยไทยมากกว่านักมวย MMA ด้วยซ้ำ”
“ผมจะไปที่ประเทศไทย ผมจะไปที่นั่น นั่นคือความฝันอันยิ่งใหญ่ที่ผมต้องการ การชมดูมวยไทยในดินแดนต้นตำรับ ภรรยาของเพื่อนผมเธอเป็นคนไทยด้วยพวกเขามักจะบอกผมเกี่ยวกับสิ่งดีๆ มากมายเกี่ยวกับประเทศไทยเสมอว่ามันสวยงามแค่ไหน อาหารน่าทึ่งแค่ไหน คุณรู้ไหมว่าผมอยากไปที่นั่นกับครอบครัวของผมเพื่อทำความรู้จักกับคนทั้งประเทศ รู้จักประสบการณ์มวยไทย และได้สัมผัสประเทศไทยด้วย”
ขณะเดียวกัน บิเซนเต ลูเก ยังกล่าวถึงช่วงเวลาในอดีตที่เจ้าตัวเคยเล่นฟุตบอลในระดับเยาวชน ในตำแหน่งผู้รักษาประตูก่อนจะเบนเข็มมาเอาดีด้านการต่อสู้ โดยเปิดเผยว่า
“ก่อนที่ผมจะฝึกมวยไทย ผมเป็นนักฟุตบอลเยาวชนในตำแหน่งผู้รักษาประตู เพราะผมไม่ค่อยถนัดเล่นเกมรุกสักเท่าไหร่ ผมซ้อมบอลเป็นเวลา 3 ปี ผมชอบมันมาก มันเหมือนกับการต่อสู้ คุณต้องป้องกัน คุณต้องกระโดด และมันก็รู้สึกสนุก และมีเพื่อนๆของผมบางคน กลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพในยุโรปด้วย”
“รู้ไหมอะไรคือเหตุผลที่ผมเปลี่ยนมาเอาดีด้านการต่อสู้ เพราะว่าการต่อสู้ในสนามฟุตบอล มันต่างแตกจากการต่อสู้ในสังเวียน สำหรับผู้รักษาประตูในดวงใจของผมคือ ฮูลิโอ เซซาร์ ตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิลของ อินเตอร์ มิลาน เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก เป็นตำนานผู้รักษาประตูที่ยิ่งใหญ่มาก นอกจากนี้ยังมี เคลาดิโอ ทัฟฟาเรล ที่ยึดครองมือ 1 ของบราซิล รวมไปถึง ดีด้า อดีตโกลของ เอซี มิลาน ด้วย 3 คนนี้คือโกลที่ผมดูบ่อยมากที่สุดในช่วงเวลานั้น”
“ผมโตที่บราซิล และเชียร์ทีม ฟลาเมงโก แต่ผมเอง ผมไม่ได้ติดตามตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนนี้ที่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่สำหรับฟุตบอลโลกเสมอ ผมแทบบ้าเลย ผมคลั่งไคล้มันมาก ผมเชียร์ทีมชาติบราซิลแบบเสียสติไปเลย ฟุตบอลโลกคือสิ่งที่ผมชอบดูมาก รวมไปถึงศึก โคปา อเมริกา ในช่วงกลางปีนี้ด้วย”
สุดท้าย ลูเก ก็ไม่ลืมที่จะฝากข้อความไปยังแฟน UFC Thailand ว่า
“สำหรับแฟน UFC ในประเทศไทยทุกคน ก่อนอื่นเลย ผมอยากจะขอบคุณสำหรับการสนับสนุนที่มอบให้ผมมาโดยตลอด ผมอยากจะออกไปแสดงความสามารถให้กับพวกคุณได้รับชม แผนของผมในวันอาทิตย์ก็คือ ออกไปต่อสู้อย่างดุเดือด สร้างไฟต์ที่น่าตื่นเต้น และหวังว่าพวกคุณจะเชียร์ผมและสนุกไปกับมัน และหวังว่าผมนำชัยชนะกลับบ้าน ไว้เจอกันวันอาทิตย์นี้”
สำหรับศึก UFC FIGHT NIGHT : BLANCHFIELD VS FIOROT จะระเบิดศึกกัน ณ สังเวียน Boardwalk Hall ,แอทแลนติก ซิตี้ สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม นี้ คู่หลักของรายการเริ่มเวลา 09.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
แฟนหมัดมวยชาวไทยติดตามชมได้ทางช่อง TRUE SPORTS HD3 (668) และแอปพลิเคชั่น UFC Fight Pass รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ufc.com/event/ufc-fight-night-march-30-2024