ลี เยวอน โชว์ฟอร์มสมราคามือหนึ่งเคแอลพีจีเอ ทัวร์ 2023 หวดรอบสุดท้ายเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68 จบด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 207 แซงคว้าแชมป์บลูแคนยอน เลดีส์ แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามบลูแคนยอน คันทรี คลับ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเฉือนชนะ มินคยุง ชอย เพื่อนร่วมชาติไปเพียงสโตรคเดียว ด้าน พรรณรายณ์ มีสมอรรถ ทำผลงานดีสุดในกลุ่มสาวไทย จบที่อันดับ 17 ร่วม
บลูแคนยอน คันทรี คลับ ร่วมกับ เคแอลพีจีเอ ทัวร์ จัดการแข่งขันกอล์ฟเคแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 2 ของฤดูกาล 2024 “บลูแคนยอน เลดีส์ แชมเปี้ยนชิพ” ชิงเงินรางวัลรวม 650,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 22.8 ล้านบาท แข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 3 วัน 54 หลุม โดยไม่มีการตัดตัว ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคมที่ผ่านมา ณ สนามบลูแคนยอน คันทรี คลับ ระยะ 6,511 หลา พาร์ 72 จ.ภูเก็ต มีนักกอล์ฟสาวไทยลงชิงชัย 11 คน
การแข่งขันวันสุดท้าย ลี เยวอน โปรสาวมือหนึ่งของเคแอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งออกสตาร์ทด้วยสกอร์ตามหลังผู้นำ 3 สโตรค เร่งเครื่องหวด 4 อันเดอร์พาร์ 68 จากการทำ 6 เบอร์ดี้ เสียสองโบกี้ จบด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 207 คว้าแชมป์รายการที่ 4 ให้กับตัวเอง พร้อมรับเงินรางวัล 117,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4.1 ล้านบาท โดยเฉือนชนะ มินคยุง ชอย ที่เก็บ 1 อันเดอร์พาร์ 71 ไปเพียงสโตรคเดียว
ลี เยวอน เผยหลังคว้าแชมป์ว่า "เป็นครั้งที่สองที่มาเมืองไทย และทำความฝันได้สำเร็จ สิ่งที่โฟกัสตลอดทัวร์นาเมนท์คือการเสิร์ฟให้อยู่แฟร์เวย์ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างออกมาได้ดี นับเป็นความทรงจำดีๆ ที่นี่ และถ้ามีโอกาสกลับมาเล่นที่นี่อีกครั้งในปีหน้า หวังว่าจะมีผลงานที่ดีเช่นกัน"
ขณะที่ โปรควีน-พรรณรายณ์ มีสมอรรถ นักกอล์ฟวัย 19 ปี จากชลบุรี พลาดตีเกิน 1 โอเวอร์พาร์ 73 จากการทำ 3 เบอร์ดี้ เสียไป 4 โบกี้ สกอร์รวมสามวันเหลือ 3 อันเดอร์พาร์ 213 จบอันดับ 17 ร่วม เจ้าตัวกล่าวว่า “วันนี้รู้สึกล้าๆ นิดหน่อย ช่วงแรกออกไปไดร์ฟไม่ค่อยดี แต่หลังจากนั้นก็พยายามคุมเกม และมาเสียในตอนท้ายๆ คือช่วงหลุม 15 ถึง 18 มารายการนี้ไม่ได้ตั้งเป้ามาก อยากให้ตัวเองลงไปเล่นให้สนุกมากกว่า เพราะที่ผ่านมาเล่นกอล์ฟค่อนข้างเครียด สัปดาห์นี้พยายามเล่นทุกช็อตให้มีความสุข ก็พอใจกับผลงาน ทั้งนี้ความยากในการเล่นเคแอลพีจีเอทัวร์อยู่ที่ตัวนักกอล์ฟเขาเล่นช็อตค่อนข้างนิ่งมาก ทำให้เขาเล่นไม่ค่อยผิดพลาด การได้มีโอกาสเล่นในทัวร์นี้ทำให้พบว่าอย่างแรกที่ตัวเองจะต้องไปปรับคือช็อตต้องนิ่งกว่านี้ เพื่อดึงตัวให้ขึ้นอีกระดับหนึ่ง”
สำหรับนักกอล์ฟไทยอีก 10 คน ทำผลงานดังนี้ พัชรจุฑา คงกระพันธ์ (72) สกอร์รวมอีเวนพาร์ 216 อันดับ 26 ร่วม, อาภิชญา ยุบล (74) สกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 218 อันดับ 41 ร่วม, พรอนงค์ เพชรล้ำ (76) สกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 217 อันดับ 47 ร่วม, อรกนก สร้อยสุวรรณ (70) และ เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ (71) สกอร์รวมคนละ 5 โอเวอร์พาร์ 221 อันดับ 55 ร่วม, กรกมล ศุขอารีย์ (74) และ นวพร สุทรียภาส (74) สกอร์รวมคนละ 8 โอเวอร์พาร์ 224 อันดับ 64 ร่วม, ฐานิตา เมืองคำสกุล (75) และ บุษบากร สุขพันธ์ (77)