แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ ทำผลงานดีสุดในกลุ่มผู้เล่นไทยที่อันดับ 8 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 281 ในศึกเอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 ที่สนามเซนโตซา กอล์ฟ คลับ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่แชมป์เป็นของ ฮานนาห์ กรีน โปรสาวมือ 29 ของโลกจากออสเตรเลีย เร่งเครื่องทำ 3 เบอร์ดี้ติดในสามหลุมสุดท้าย จบด้วยสกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 เบียดคว้าชัยไปครอง
แอลพีจีเอ ทัวร์ จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 ชิงเงินรางวัลรวม 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 63 ล้านบาท) แข่งขัน 4 วัน แบบไม่มีตัดตัว ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคมที่ผ่านมา ณ สนามเซนโตซา กอล์ฟคลับ ตันจงคอร์ส ระยะ 6,775 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ และมีโปรไทยลงแข่งขัน 5 คน ได้แก่ ปภังกร ธวัชธนกิจ (อันดับ 27 ของโลก), ชเนตตี วรรณเสน (อันดับ 35 ของโลก), เอรียา จุฑานุกาล (อันดับ 45 ของโลก), จัสมิน สุวัณณะปุระ (อันดับ 88 ของโลก) และ ปาจรีย์ อนันต์นฤการ (อันดับ 93 ของโลก)
วันสุดท้ายของการแข่งขันปรากฎว่ามีฝนตกลงมาในช่วงเช้า และเป็น ฮานนาห์ กรีน โปรมือ 29 ของโลก ซึ่งลงเล่นในกลุ่มสุดท้ายด้วยสกอร์ตามหลัง อายากะ ฟูรุเอะ จากญี่ปุ่น สองสโตรค โชว์พัตเตอร์ร้อนทำ 3 เบอร์ดี้ติดในสามหลุมท้าย รวมกับอีก 3 เบอร์ดี้ เสียเพียงโบกี้เดียว จบ 18 หลุมเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67 สกอร์รวมสี่วัน 13 อันเดอร์พาร์ 275 คว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์รายการที่ 4 ให้กับตัวเอง พร้อมรับเงินรางวัล 270,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9.5 ล้านบาท โดยเฉือนชนะ เซลีน บูติเยร์ โปรมือ 3 ของโลกจากฝรั่งเศส เพียงสโตรคเดียว
กรีน นักกอล์ฟวัย 27 ปี ซึ่งจบอันดับ 54 ร่วมที่พัทยาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เผยหลังคว้าแชมป์ในเอเชียเป็นครั้งแรกว่า “วันนี้ตั้งใจเล่นเกมของตัวเอง มีโอกาสเล่นเกมบุกและพัตต์ทำแต้ม วันนี้พัตต์ได้อย่างมั่นใจ ซึ่งช่วงรอบหลังพัตต์ได้ดีมาก โดยเฉพาะที่หลุม 16 ทำให้มั่นใจและเก็บสามเบอร์ดี้ติด ที่หลุมสุดท้ายตั้งใจว่าต้องพัตต์เบอร์ดี้ให้ลงเพื่อไม่ต้องไปเพลย์ออฟกับซีลีน ดีใจที่ได้มาชนะที่เอเชียเป็นครั้งแรก และคว้าแชมป์ได้ค่อนข้างเร็วในต้นของฤดูกาล”
สำหรับนักกอล์ฟสาวไทยผลงานดีสุดเป็น แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ ที่เรียกฟอร์มคืนกลับมาในรอบสุดท้ายหวด 5 อันเดอร์พาร์ 67 จากการทำ 7 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ ขึ้นมาจบที่อันดับ 8 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 281 เท่ากับ อายากะ ฟูรุเอะ มือ 20 ของโลกจากญี่ปุ่น ผู้นำรอบสาม และ โค จิน ยอง มือ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้และอดีตแชมป์สองสมัยรายการนี้ กับผู้เล่นอีกสองคน รับเงินรางวัลไปคนละ 38,484 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1.35 ล้านบาท
ปภังกร เจ้าของสองแชมป์ติดต่อกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกล่าวว่า “สัปดาห์นี้สภาพร่างกายยังไม่ค่อยพร้อมร้อยเปอร์เซนต์ และตีไม่เหมือนเดิม รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ตีได้ปกติที่สุดตั้งแต่เล่นมา 4 วัน เล่นได้เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และไม่เหนื่อยเหมือนสามวันที่ผ่านมา วันนี้ไดร์ฟดี เหล็กดีตีเข้าไปใกล้หลายหลุม และมีฝนตกในช่วงเช้าถือว่าเป็นผลดีทำให้กรีนนุ่มขึ้นและตัวเองสามารถเล่นเกมบุกได้มากขึ้น โดยรวมสัปดาห์นี้ตีดีแต่ก็มีทำสามพัตต์ทุกวัน ซึ่งถ้าไม่ทำสามพัตต์ทุกวันก็น่าจะมีลุ้นเหมือนกัน ก็รู้สึกภูมิใจที่ดึงตัวเองกลับมาจบในอันดับท็อปเท็นได้”
ทางด้านเมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ตีเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วันมี 6 อันเดอร์พาร์ 282 จบอันดับ 13 ร่วมกับ หยิน รัวหนิง มือ 4 ของโลกจากจีน และผู้เล่นอีกสองคน ส่วนผู้เล่นชาวไทยอีก 3 คน ทำผลงานดังนี้ เม-เอรียา จุฑานุกาล (72) สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 285 อันดับ 22 ร่วม, พราว-ชเนตตี วรรณแสน (68) สกอร์รวมอีเวนพาร์ 288 อันดับ 29 ร่วม และจัสมิน สุวัณณะปุระ (73) สกอร์รวม 1 โอเวอร์พาร์ 289 เท่ากับ ลิเดีย โค มือ 7 ของโลกจากนิวซีแลนด์ อันดับ 34 ร่วม ขณะที่ ลิเลีย วู โปรสาวมือหนึ่งของโลกจากสหรัฐฯ ถอนตัวจากการแข่งขันเนื่องจากมีอาการป่วย