คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
โชว์ฟอร์มสวยสดงดงามอีกครั้งสำหรับ “น้องหล้า” โลมา ลูกบุญมี นักสู้สาวไทยตัวแทนหนึ่งเดียวบนสังเวียนระดับโลกอย่าง “อัลติเมต ไฟต์ติ้ง แชมเปี้ยนชิป” หรือ UFC ที่ได้หวนคืนสังเวียนมวยกรงแปดเหลี่ยมอีกครั้ง หลังประสบปัญหาอาการบาดเจ็บจนต้องผ่าตัดและพักไปร่วมปี โดยได้ขึ้นเวทีในรายการ UFC Fight Night 236 ที่สังเวียน UFC Apex ในลาส เวกัส เนวาด้า สหรัฐอเมริกา เป็นคู่ก่อนเวลา เมื่อเช้าตรู่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โดยนักสู้สาวไทยถูกจัดให้เจอกับนักสู้สาวบราซิล บรูน่า บราซิล ผู้ชนะรายการ UFC Contender Series ซึ่งเป็นรายการคัดเลือกนักสู้มาเซ็นสัญญากับ UFC และได้ขึ้นสู้ในรายการ UFC มา 2 ไฟต์แล้ว ชนะ 1 แพ้ 1 สถิติรวมชนะ 9 แพ้ 3 เสมอ 1 ไฟต์นี้ทั้งคู่ค่อนข้างระวังตัว แลกอาวุธกันระยะห่าง เพราะสาวบราซิลได้เปรียบส่วนสูงถึง 5 นิ้ว ก็หวังอาศัยส่วนสูงช่วงชกที่ได้เปรียบทิ่มหมัดใส่สาวไทย แต่ “น้องหล้า” ไม่กลัว ยืนห่างก็ยืนห่าง อาศัยแข้งขวาที่หนักหน่วงเผดียงใส่สาวบราซิลจนน่วม แถมคอยออกหมัดจังหวะสองได้งามๆ หลายหมัด ท้ายยกแรกทั้งคุ่เข้ากอดปล้ำกันสาวไทยได้จังหวะเหวี่ยงสาวบราซิลลงกับพื้นทำ “เทคดาวน์” สำคัญได้ ยก 2 ยก 3 เกมยังเป็นรูปเดิม ทั้งคู่ยืนแลกอาวุธกันมากกว่า มีเข้ากอดงัดกันบ้างแต่สาวไทยวงไนดีกว่า โยนเข่างัดศอกเข้าเป้าจะๆ พอสาวบราซิลจะพยายามทำ “เทคดาวน์” บ้าง “น้องหล้า” ก็ป้องกันไว้ได้ ไม่มีปัญหาครบ 3 ยก “น้องหล้า” เอาชนะคะแนนไปเป็นเอกฉันท์ 29-28 ทั้ง 3 เสียง สร้างประวัติศาสตร์ชนะรวด 3 ไฟต์ได้เป็นครั้งแรกในชีวิตการต่อสู้ เพิ่มสถิติเป็นชนะ 9 แพ้ 3 โดยสถิติใน UFC ชนะ 6 แพ้ 2
ไฟต์นี้ต้องบอกว่าทาง UFC ก็ชงให้ เอานักสู้ที่ถนัดการยืนออกอาวุธมาเจอกับเรา แบบนี้ยังไงเราก็เหนือกว่า มาเท่าไหร่รับกินหมด อันที่จริง “น้องหล้า” แสดงให้เห็นแล้วว่าทักษะการสู้ในเกมนอนบนพื้นถือว่าพัฒนามามาก ไฟต์ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งเอาชนะด้วยการ “ซับมิชชั่น” ได้เป็นครั้งแรก ด้วยการล็อกคู่ต่อสู้ในท่า “เรียร์ เน้คเก็ด โช้ค” หรือล็อกคอจากด้านหลังจนคู่ต่อสู้ต้องยอมแพ้ 8 ไฟต์ที่ผ่านมาในสังเวียน UFC “น้องหล้า” ก็สามารถทำ “เทคดาวน์” คู่ต่อสู้ได้ถึง 7 คน เรียกว่าทักษะดี และไม่กลัวเกมนอนสู้แล้ว
หลังจบการต่อสู้ “น้องหล้า” ให้สัมภาษณ์ถึงความลำบากที่ต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บ และความทุ่มเทในการเตรียมตัวขึ้นสู้ไฟต์นี้ ที่ตัดสินใจเดินทางไปเก็บตัวที่ต่างประเทศคนเดียว ต้องต่อสู้กับการปรับเปลี่ยนชีวิตหลายๆ อย่าง แต่นั่นก็ทำให้ “น้องหล้า” เติบโตขึ้น และมีความมั่นใจมากขึ้น เรียกว่าตอนนี้พร้อมเต็มที่ทั้งร่างกายและจิตใจ เจอใครก็ได้ โดยเฉพาะ “น้องหล้า” ตั้งความหวังติดอันดับ “ท็อป 15” ในรุ่นสตรอว์เวทนี้ให้ได้ เรียกร้องให้ UFC จัดคู่ต่อสู้ที่อยู่ในอันดับมาให้เจอได้เลย แต่ก็ต้องยอมรับว่านักสู้สาวไทยเราเสียเปรียบรูปร่างคู่ต่อสู้อยู่ตลอด เพราะก่อนหน้านี้ “น้องหล้า” ขึ้นสู้ในรุ่น 105 ปอนด์เท่านั้น ทาง UFC ไม่มีรุ่นเล็กอย่างนี้ เริ่มกันที่ 115 คือรุ่นสตรอว์เวทนี้เลย ทาง “น้องหล้า” ก็เรียกร้องให้ UFC พิจารณาตั้งรุ่น 105 ปอนด์ขึ้นมา เพราะมีนักสู้เอเชียฝีมือดีๆ ในพิกัดนี้เยอะ จะสร้างความนิยมในตลาดเอเซียได้แน่นอน เสียงเรียกร้องของ “น้องหล้า” นี้แฟนๆ เห็นด้วยกันเยอะ เพราะ UFC ตั้งรุ่นเฟเธอร์เวทหญิง 145 ปอนด์ขึ้นมาเพื่อรองรับคริส ไซบอร์ก แล้วก็มีปัญหาไม่สามารถหานักสู้มาเข้ารุ่นนี้ได้มากเพียงพอ เรียกว่า “ไม่เกิด” ตอนนี้คริส ไซบอร์ก ก็หมดสัญญากับ UFC แล้ว แฟนๆ มองว่ายกเลิกรุ่น 145 ไป แล้วมาตั้งรุ่นอะตอมเวท 105 น่าจะสนุกกว่า งานนี้ก็ต้องติดตามต่อไป แต่ “น้องหล้า” พร้อมเจอทุกคนเสมอแม้ว่าจะพิกัด 115 ก็ตาม แฟนๆ รอเชียร์กันเต็มที่