แคนซัส ซิตี ชีฟส์ กลายเป็นแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล 2 สมัยติดต่อกันทีมที่ 9 ของลีกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) หลัง แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก ขว้างทัชดาวน์ 3 หลา ให้ เมโคล ฮาร์ดแมน ปีกนอก แซงชนะ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ช่วงต่อเวลา 25-22 ที่สนามอัลเลเจียนท์ สเตเดียม วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ ตามเวลาไทย
ชีฟส์ ซิวโทรฟี วินซ์ ลอมบาร์ดี ครั้งที่ 3 รอบ 5 ปี ต่อหน้า เทย์เลอร์ สวิฟต์ ป็อปสตาร์ ที่มานั่งเชียร์ ทราวิส เคลซี ไทต์เอนด์ตัวเก่ง บนห้อง VIP
ศึกซูเปอร์โบว์ลแรก ที่ลาส เวกัส ค่อนข้างอึดอัด และเกิดความผิดพลาดจนเกมน่าเบื่อ กระทั่งควอเตอร์สุดท้าย และต่อเวลา นับเป็นครั้งที่ 2 จากรอบชิงชนะเลิศ 58 เกม ซึ่งสกอร์เสมอกัน 19-19 หลังจบ 4 ควอเตอร์ และครั้งแรกที่กฎการต่อเวลาระบุว่า แต่ละทีมต้องได้บุกทีมละ 1 ไดรฟ์
ชีฟส์ ตามหลัง 19-22 หลัง เจค มูดี ตัวเตะ ซาน ฟรานซิสโก เตะฟิลด์โกล 27 หลา ในการครองบอลชุดแรกของการต่อเวลา ทว่ามนต์วิเศษของ มาโฮมส์ ยังไม่สิ้นความขลัง พาทีมคัมแบ็กอย่างเหลือเชื่อ
มาโฮมส์ วิ่งระยะ 8 หลา ในการเล่นดาวน์ที่ 4 ต้องการ 1 หลา ส่งผลให้ ชีฟส์ ครองบอลบุกต่อ แล้ววิ่งอีก 19 หลา นำไปสู่ทัชดาวน์ตัดสินเกม โดยเหลือเวลา 3 วินาที ก่อนยืดเยื้อถึงการต่อเวลาครั้งที่ 2
คู่จิ้นควอเตอร์แบ็ก/เฮดโค้ช มาโฮมส์ กับ แอนดี หรีด มาถึงครึ่งทางของ ทอม เบรดี กับ บิลล์ เบลิชิค ซึ่งคว้าแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล 6 สมัย ตลอดการร่วมงานกัน 20 ปี ที่นิว อิงแลนด์ แพทริออตส์ และกลายเป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์ได้ นับตั้งแต่ฤดูกาล 2003 กับ 2004
มาโฮมส์ วัย 28 ปี กลายเป็นควอเตอร์แบ็กตัวจริงคนที่ 4 ซึ่งคว้าแชมป์อย่างน้อย 3 ซูเปอร์โบว์ล ต่อจาก ทอม เบรดี (7), โจ มอนทานา (4), เทอร์รี แบรดชอว์ (4) และ ทรอย เอกแมน (3) โดยมีอายุน้อยสุดอันดับ 2
รูปเกมเริ่มตื่นเต้น หลังความผิดพลาดของทีมพิเศษ โฟร์ตีไนเนอร์ส เสียฟัมเบิลเพลย์วิ่งย้อนพันท์ เป็นเหตุให้ มาโฮมส์ ขว้างทัชดาวน์ 16 หลา ให้ มาร์เกวซ วัลเดส-สแคนท์ลิง ปีกนอก แซงนำ 13-10
บร็อค เพอร์ดี ตอบโต้ทันควัน ขว้างทัชดาวน์ 10 หลา ให้ จูอาน เจนนิงส์ ปีกนอก พลิกขึ้นนำ 16-13 แต่ มูดี เตะเอ็กซ์ตรา พอยน์ต ติดบล็อก
เจนนิงส์ กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ซึ่งขว้างและรับทัชดาวน์ของ ซูเปอร์โบว์ล ต่อจาก นิค โฟลส์ ควอเตอร์แบ็ก ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
หลังจาก มูดี เตะฟิลด์โกล 53 หลา ส่งผลให้ ไนเนอร์ส ขึ้นนำ 19-16 เหลือเวลา 1 นาที 53 วินาที มาโฮมส์ ประสานงานขว้างบอลให้ เคลซี ได้ระยะ 22 หลา นำไปสู่ฟิลด์โกลตีเสมอของ แฮร์ริสัน บัตเกอร์ ระยะ 29 หลา เหลือเวลาปกติ 3 วินาที
