จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า เชื่อว่าเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2026 ที่มหานครนิวยอร์ก จะเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเท่าที่โลกเคยมีมา
ทั้งนี้ ฟีฟ่า ประกาศยืนยันให้ มหานครนิวยอร์ก รัฐนิว เจอร์ซีย์ รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเกมรอบชิงชนะเลิศของมหกรรมฟุตบอลโลก 2026 ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2026 โดยจะจัดขึ้นที่ เม็ตไลฟ์ สเตเดียม ความจุ 80,242 คน
ขณะที่เกมนัดเปิดสนามจะจัดขึ้นที่ เอสตาดิโอ แอสเตกา เม็กซิโก ซิตี ในวันที่ 11 มิถุนายน 2026 โดย เวิลด์ คัพ 2026 จะเป็นความร่วมมือกันของ 3 ชาติ ทั้ง สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และแคนาดา
“ผมมั่นใจว่า นิวยอร์ก, นิว เจอร์ซี่ย์ กำลังเฉลิมฉลองในตอนนี้ และพวกเขาควรฉลองเพราะพวกเขาจะได้เป็เจ้าภาพในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอล” อินฟานติโน เริ่มกล่าว
“เกมนัดชิงชนะเลิศในปี 2026 ในวันที่ 16 กรกฎาคม จะเป็นมหากาพย์ มันจะเป็นเกมที่ยอดเยี่ยม มันจะเป็นครั้งแรกของเกมชิงขนะเลิศฟุตบอลโลกที่มีทีม 48 ทีมจาก 48 ประเทศ จะมีผู้คนนับล้านเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อฟุตบอลโลกของพวกเขา ไม่ยังเม็กซิโก และแคนาดา”
“และแน่นอนว่านิวยอร์กนั้นเป็นเมืองที่มีความเป็นสากลซึ่งมีคนกว่า 200 สัญชาติอยู่ที่นั่น เป็นการเฉลิมฉลองที่หลอมรวมทั้งโลกไว้ด้วยกัน มันจะเป็นอะไรที่พิเศษ”
“ส่วน แอสเตกา สเตเดียม ไม่ได้เป็นแค่สนามฟุตบอล แต่มันเป็นวิหารสำหรับโลกลูกหนัง สำหรับวงการฟุตบอลแม็กซิกัน สำหรับชาวอเมริกาเหนือและโลกฟุตบอล”
“นักเตะอย่าง เปเล, มาราโดนา คว้าแชมป์ที่นั่นในเกมที่ที่น่าจดจำที่สุดของประวัติศาสตร์ฟุตบอล ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เราเลือกที่นั่นในการเตะเกมเปิดสนาม” ปธ.ฟีฟ่า ทิ้งท้าย