การแข่งขันขี่ม้าโปโล รายการ ออลเอเชีย คัพ 2024 ระหว่างวันที่ 4-10 ก.พ. ที่สนาม วีอาร์ สปอร์ต คลับ และ สยามโปโล ปาร์ค บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 5 ประเทศ ประกอบด้วย “แชมป์เก่า” ไทย ดีกรีเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ประเทศมาเลเซีย นำทีมโดยสองพี่น้องศรีวัฒนประภา "ต๊อบ-อัยยวัฒน์" กับ "ต้อล-อภิเชษฐ์" ส่วน บรูไน นำทีมโดย เจ้าชายอับดุล มาทีน โบลเกียห์ แห่งราชวงศ์บรูไน, มองโกเลีย, จีน และ ฟิลิปปินส์ ใช้ระบบแข่งขันแบบพบกันหมด แข่งกันทั้งหมด 4 ชักก้า ชักก้าละ 7 นาที
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 67 เป็นวันแรกของการแข่งขัน มีการชิงชัยกัน 2 คู่ เริ่มจากคู่แรกเป็นการลงสนามระหว่าง "แชมป์เก่า" ทีมไทย ที่ส่งชุดเหรียญเงินครั้งที่ 29 แบบฟูลทีม มี อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา, อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา, ณัฐพงศ์ ประทุมลี และ ธนาศิลป์ เชื้อวังคำ ลงสนาม พบกับ มองโกเลีย ซึ่งคู่นี้เคยพบกันล่าสุดในการแข่งขัน ปี 2018 ซึ่งเป็นทีมไทยเอาชนะมาด้วยสกอร์ 7-4 คะแนน ส่วนเกมนัดนี้ไทยได้คะแนนจากแต้มต่อ 1.5 คะแนน เนื่องจากแฮนดี้แค๊ปทีมรวมน้อยกว่ามองโกเลีย โดยไทยมีแฮนดี้แค๊ปรวม 3 โกล จากณัฐพงษ์ 2 โกล อัยยวัฒน์ 1 โกล ในขณะที่ มองโกเลียนั้นมีแฮนดี้แค๊ปทีมสูงถึง 6 โกล และนักกีฬาที่มีแฮนดี้แค๊ปสูงที่สุดของมองโกเลีย คือ เรนเซนชาราฟ โอลดอคห์ มีแฮนดี้แค๊ป 3 โกล
เปิดเกมในชักก้าแรก เป็นทีมไทยที่เปิดเกมรุกได้อย่างดุเดือด และมีโอกาสเข้าไปทำประตูถึงหลายครั้ง แต่โดนสะกัดจากมองโกเลีย จนมาถึงทนาทีสุดท้ายของชักก้าแรก ณัฐพงษ์ เล่นบอลเร็วตัดบอลจากมองโกเลียหนีเดี่ยวขึ้นไป ส่งต่อให้ “ต๊อบ”อัยยวัฒน์ ยิงเข้าประตูไปอย่างสวยงามนำ 2.5-0 คะแนน พร้อมหมดเวลาในชักก้าที่ 1
ชักก้าที่ 2 สองทีมยังบุกกันอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างรุกและรับสะกัดบอลไม่ยอมให้เสียประตูง่ายๆ จนเกิดการฟาว์ลหลายครั้ง และเมื่อเกมกลับมาเริ่มใหม่ บอลได้ครองบอลโดย ณัฐพงษ์ ประทุมลี ที่ยิงยาวจากออกมาก่อนจะควบม้าวิ่งไล่ลูกขึ้นมา จะยิงเข้าประตู ปรากฏว่า โดนผู้เล่นจากมองโกเลียขึ้นมาบังไลน์ “ต๊อบ” อัยยวัฒน์ ที่ควบม้าไล่ขึ้นมาจึงเข้ามายิงประตูพาไทยนำ 3.5-0 คะแนน และในนาทีที่ 5 อัยยวัฒน์ เลี้ยงลูกจากริมเส้นขึ้นยิงทำประตูที่ 3 ให้กับตัวเอง นำ 4.5-0 คะแนน
ชักก้าที่ 3 มองโกเลียได้จุดโทษ 50 หลาจากการยิงของ ดาร์ทาเนียน ฟรานซ์-คริสทอฟ ไล่มาเป็น 1-4.5 คะแนน แต่ผ่านไปเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น ไทยเอาคืนได้สำเร็จ เมื่อตัดบอลจากผู้เล่นมองโกเลียและเลี้ยงเข้าไปยิงทำประตูเพิ่มให้ไทยนำ 5.5-1 คะแนน
หลังจากผ่านไป 3 นาทีไทยได้ครอบครองบอลโดย อัยยวัฒน์ ที่ได้ครองบอล ส่งผลให้ อภิเชษฐ์ ต้องขึ้นมาประกบ เรนเซนชาราฟ โอลดอคห์ ไม่ให้เข้าไปตัดบอล ด้านอัยยวัฒน์ จึงพาบอลขึ้นไปทำประตู โดยรณัฐพงษ์ รอประกบคู่แข่งเพื่อป้องกันการตัด ส่งผลให้ อัยยวัฒน์ ทางสะดวกเลี้ยงบอลหนีคู่แข่งขึ้นไปทำประตูให้ไทยนำห่าง 6.5.-1 คะแนน เกมกลับมาเริ่มใหม่กลางสนาม และเป็นณัฐพงษ์ ที่ล้วงบอลตัดเกมและเลี้ยงพาขึ้นไปยิงด้วยตัวเองทำสกอร์เพิ่มให้ไทยนำ 7.5-1 คะแนน ก่อนหมดเวลาชักก้าที่ 3 มองโกเลีย สวนหนักขึ้น และตั้งเกมรับไม่ให้ผู้เล่นไทยผ่านไปได้ ทำให้เกมกลับมาเป็นของมองโกเลียเลี้ยงเข้าไปยิงประตูไล่มาเป็น 2-7.5 คะแนน
ชักก้าที่4 เป็นการแข่งขันในชักก้าสุดท้าย ไทยเล่นแบบไร้ความกดดัน และ”ต๊อบ” อัยยวัฒน์ ยังโชว์ฟอร์มเก๋า รับบอลส่งต่อจาก ณัฐพงษ์ ยิงทำประตูตั้งแต่ต้นชักก้าให้ไทยนำ 8.5-2 คะแนน และเกมกลับมาเป็นของไทยที่เล่นประสานความเป็นทีมเวิร์กได้เป็นอย่างดี ทำประตูได้อย่างต่อเนื่องจาก จากการยิงของ ธนาศิลป์ เชื้อวังคำ นำ 9.5-2 คะแนน จากนั้นมองโกเลีย เล่นเร็วเข้าตัดบอลพาขึ้นไปยิงประตูไล่มา 3-9.5 คะแนน
จนเข้าสู่ช่วง 2 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน โอกาสกลับมาเป็นของไทย เมือเข้าสะกัดเกมรุกของมองโกเลียเปลี่ยนกลับมาพร้อมเปิดเกมรุก และเล่นเร็วเลี้ยงเข้าไปยิงประตู ให้ไทยนำ 10.5-3 คะแนน พร้อมหมดเวลาแข่งขัน ไทยประเดิมสนามเอาชนะ มองโกเลีย 10.5-3 คะแนน โดยมี “ต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ยิงคนเดียว 7 คะแนน ส่วนอีกคู่ บรูไนไล่ถล่มจีนเอาชนะไป 11-1 คะแนน