เขา คือ เจ้าของสมญา "แดร์ ไกเซอร์" ตำนานลูกหนังแห่งเยอรมนี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ทั้งบทบาทผู้เล่น และผู้จัดการทีม หัวใจสำคัญ บาเยิร์น มิวนิก ชุดเจ้ายุโรปกลางยุค 1970 จุดกำเนิดของตำแหน่งใหม่บนสนาม และบุกเบิกฟุตบอล (ซ็อคเกอร์) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
หนึ่งในอดีตผู้เล่นยุคแรกๆ ซึ่งนิยมสวมสูท ผู้ทรงอิทธิพลต้อวงการลูกหนัง แต่เส้นทางนอกสนามของเขาจบลงด้วยความอัปยศนอกสนาม ถูกแบนและรังเกียจ รวมถึงถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงปมฉาวภายใน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ก่อนปัญหาสุขภาพ และโรคสมองเสื่อมคุกคามช่วงบั้นปลายชีวิต
แต่สำหรับแฟนๆ ฟุตบอลส่วนมาก ภาพลักษณ์ของ ฟรานซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ คือ ความสง่างาม และการอ่านเกมอันเฉียบขาด สัญลักษณ์ของลูกหนังเมืองเบียร์ และนักเตะที่ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนกับ เซอร์ บ็อบบี ชาร์ลตัน เกิดขึ้นบนสนาม จากการประลองฝีเท้ากันมาหลายปี
การเสียชีวิตของเขาเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือน นับตั้งแต่ ชาร์ลตัน จากไปเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม อีกบุคคลหนึ่งที่มีความเชื่อมโยงกับความยิ่งใหญ่ของ ฟุตบอลอังกฤษ ถึงแก่กรรมเรียบร้อยแล้ว เหลือ 6 คน ซึ่งอยู่บนสนาม เวมบลีย์ วันที่ 30 กรกฎาคม 1966 ที่ยังมีลมหายใจ
คุณพ่อพนักงานไปรษณีย์
เบ็คเคนเบาเออร์ เกิดที่เมืองมิวนิก ในครอบครัวพนักงานไปรษณีย์ และภรรยา เพียง 4 เดือน นับตั้งแต่พรรคนาซีเสื่อมอำนาจ และสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นแฟนบอล 1860 มิวนิก ช่วงวัยเยาว์
ทว่าความบาดหมางกับ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของ 1860 สมัย เบ็คเคนเบาเออร์ เล่นตำแหน่งศูนย์หน้า ในทัวร์นาเมนต์ท้องถิ่นระดับเยาวชน ส่งผลให้เขาเลือกย้ายไป บาเยิร์น มิวนิก ขณะอายุ 14 ปี
4 ปีต่อมา เขาถูกแบนเข้าร่วมทีมชาติ เยอรมันตะวันตก ชุดเยาวชน เนื่องจากทำแฟนสาวท้อง โดยไม่มีแพลนแต่งงาน มีเพียง เด็ตต์มาร์ คราเมอร์ ผู้ช่วยกุนซือ "อินทรีเหล็ก" เข้ามาจัดการแทน
ปี 1965 เบ็คเคนเบาเออร์ เป็นส่วนหนึ่งของ บาเยิร์นฯ ยุคพลังหนุ่ม รวม แกร์ด มุลเลอร์ กองหน้าสมญา "ไอ้ลูกระเบิด" และ เซ็ปป์ ไมเออร์ นายทวาร จากนั้นไม่นาน เขาลงเล่นทีมชาติชุดใหญ่นัดแรก เกมชี้ชะตา ฟุตบอลโลก 1966 รอบคัดเลือก ที่ประเทศสวีเดน
เกมนั้นเพียงพอสำหรับ เฮลมุต เชิน กุนซือ และนับจากนั้น เบ็คเคนเบาเออร์ กลายเป็นตัวหลัก และว่าที่กัปตันทีม
ถึงแม้ยืนตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวต่ำ (เบอร์ 6) เบ็คเคนเบาเออร์ ยิง 4 ประตู รวมลูกยิง ชนะ สหภาพโซเวียต รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 1966 ที่สนามกูดิสัน ปาร์ก คว้าตั๋วสู่เวมบลีย์
ทว่า เชิน กับ แรมซีย์ มองด้านแท็๋คติกเหมือนๆ กัน ส่ง เบ็คเคนเบาเออร์ กับ เซอร์บ็อบ คอยหยุดการขับเคลื่อนเกมซึ่งกันและกัน แต่กลายเป็น เจฟฟ์ เฮิร์สท และพลพรรค "สิงโตคำราม" ได้ฉลองแชมป์โลก
คิดบัญชีรอบชิงฯ ปี 1966
4 ปีต่อมา เบ็คเคนเบาเออร์ และพลพรรค ดี มันน์ชาฟท์" ถอนแค้น ที่เมืองลีออน ประเทศเม็กซิโก จอมทัพสังกัด บาเยิร์นฯ เป็นจุดเริ่มต้นของการคัมแบ็กจากตามหลัง 2 ลูก โดยยิงมุมแคบผ่าน ปีเตอร์ โบเนตติ ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ
เยอรมันตะวันตก ยังคงรอคอยแชมป์โลกสมัยที่ 2 ต่อไป เบ็คเคนเบาเออร์ กัดฟันลงเล่นจนถึงท้ายเกมต่อเวลาแพ้ อิตาลี 3-4 ด้วยสภาพสวมผ้าคล้องแขน หลัง เชิน เปลี่ยนผู้เล่นสำรองจนหมดโควตา
กลายเป็นที่มาของสมญา "แดร์ ไกเซอร์ หรือ จักรพรรดิ์ (the Emperor)" ตามความหมายภาษาเยอรมัน ถึงแม้มีการอ้างว่า สาเหตุเกิดจากเขายืนโพสท่าถ่ายภาพหน้ารูปปั้นของ ฟรานซ์ โจเซฟ จักรพรรดิ์ออสเตรีย แต่อาจไม่เป็นความจริงทั้งหมด
ถึงอย่างไร เขา คือ แดร์ ไกเซอร์ ยืนตำแหน่งลิเบอโร หรือ กองหลังคนสุดท้ายสายเกมรุก ซึ่งทำหน้าที่ตั้งบอลจากแดนหลัง เป็นกัปตันทีมของ เชิน ชุดถล่ม รัสเซีย คว้าแชมป์ยูโร 1972 ที่กรุงบรัสเซลลส์ ประเทศเบลเยียม และนำ บาเยิร์นฯ คว้าแชมป์ยูโรเปียน คัพ 3 สมัยติดต่อกันทีมแรก และคว้าแชมป์โลก 1974 ที่บ้านตัวเอง อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา
ถึงแม้เขาจบการรับใช้ เยอรมันตะวันตก 103 นัด ย้ายไป นิว ยอร์ก คอสมอส สโมสรของสหรัฐอเมริกา เบ็คเคนเบาเออร์ ลงเล่น 2 ซีซันสุดท้ายที่เมืองเบียร์ ให้ ฮัมบูร์ก คว้าแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน สมัยที่ 5 ของอาชีพ
การเปลี่ยนบทบาทสู่ผู้จัดการทีม ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ มีเพียง อาร์เจนตินา ยุค ดีเอโก มาราโดนา ที่ขัดขวางความสำเร็จ โดยพ่ายรอบชิงชนะเลิศ 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก ก่อนสะสางหนี้เกา ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี อีก 4 ปีต่อมา
เบ็คเคนเบาเออร์ กลับมานั่งกุนซือ บาเยิร์นฯ คว้าแชมป์บุนเดสลีกา 1994 และ ยูฟา คัพ (ยูฟา ยูโรปา ลีก ปัจจุบัน) 1996 ก่อนดำรงตำแหน่งประธานสโมสรกิตติมศักดิ์ และรองประธาน สมาคมฟุตบอลเยอรมนี (DFB) เพื่อหาเสียงชิงเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งนำไปสู่ประเด็นฉาวโฉ่
ท่ามกลางความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ ฟุตบอลโลก 2006 ภายหลังมีการเปิดเผยว่า ชัยชนะการโหวตเกิดจากข้อตกลงที่ผิดกฎหมาย โดยมีเงิน 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 45 ล้านบาท) ถูกโอนเข้าบัญชีของเขาจาก แอฟริกาใต้ และยังได้รับเงิน 3 ล้านปอนด์ (135 ล้านบาท) จากสัญญาสปอนเซอร์แฝง
นอกจากนี้ เบ็คเคนเบาเออร์ ยังเป็นสมาชิกกรรมการบริหาร "ฟีฟา" ซึ่งมอบสิทธิ์เจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 แก่ รัสเซีย และ กาตาร์ ตามลำดับ เมื่อปี 2010
ภายหลัง เบ็คเคนเบาเออร์ ถูกแฉว่า ได้รับเงินมากกว่า 3 ล้านปอนด์ (135 ล้านบาท) จาก รัสเซีย ขณะลงคะแนนโหวตให้ กาตาร์ ถึงแม้เป็นตัวแทนแย่งสิทธิ์เจ้าภาพของ ออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม ตำนานบนสนามบ่งชี้ว่า "แดร์ ไกเซอร์" คือ นักเตะอุดมคติ แม้ว่าเขาไม่สามารถรักษาความสง่างามแบบนั้นได้เสมอไป