สหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย (เอทีเอฟ) จัดการประชุมใหญ่ประจำปี ค.ศ.2023 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 โดยมีวาระสำคัญคือ การเลือกตั้งประธานสหพันธ์ฯ คนใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสหพันธ์ฯ ชุดใหม่ แทนชุดเก่าที่หมดวาระ ซึ่งชุดเก่ามี นายกิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล หรือ "บิ๊กเอ๋" อดีตนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ เป็นประธานสหพันธ์ฯ (วาระ 2019 - 2023)
ในโอกาสนี้ พลเอก กู้เกียรติ ศรีนาคา อุปนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ เป็นประธานกล่าวต้อนรับผู้เข้าประชุมครั้งสำคัญ ในขณะที่ นายไทยทนุ วรรณสุข เลขาธิการสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ เป็นผู้แทนสมาคมเข้าประชุมดังกล่าวข้างต้น ร่วมด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกของสหพันธ์ฯ จากทั่วเอเชีย
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวาระการเลือกตั้งประธานสหพันธ์ฯ คนใหม่ ปรากฏว่า นายกิตตน์สมบัติ ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อสมัครชิงตำแหน่งอีกสมัย ได้แจ้งขอถอนตัว ส่งผลให้ผู้ชิงตำแหน่งเหลือเพียง 3 คน ได้แก่ มร.นาโอะ คาวาเตอิ จากญี่ปุ่น, มร.สุเรนดราน ซูบรามาเนียม จากศรีลังกา และ มร.ยูริ โพลสกี้ จากคาซัคสถาน โดยผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่า มร.ยูริ โพลสกี้ ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด 34 คะแนน ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งของผู้ที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด 55 คะแนน ส่วน มร.สุเรนดราน ซูบรามาเนียม ได้ 16 คะแนน ขณะที่ มร.นาโอะ คาวาเตอิ ได้ 5 คะแนน และมีบัตรเสีย 2 ใบ ส่งผลให้ มร.ยูริ โพลสกี้ ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฯ คนใหม่ (วาระ 2023 - 2027) ทันที
นายกิตตน์สมบัติ กล่าวถึงเหตุผลในการถอนตัวครั้งนี้ว่า ก่อนถึงการเลือกตั้ง ทาง มร.ยูริ โพลสกี้ ได้เข้ามาหารือและขอให้ตนให้การสนับสนุน ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งกัน เพราะไทยกับคาซัคสถานมีมิตรไมตรีที่ดีต่อกันมาตลอด ตนได้คิดทบทวน และนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ และนายไทยทนุ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนไม่ขัดข้อง ตนจึงได้เสียสละขอถอนตัวและให้การสนับสนุน มร.ยูริ โพลสกี้ เพื่อมิตรภาพที่ดีระหว่างสองประเทศ
ด้าน นายสุชัย กล่าวว่า ตนได้รับทราบเรื่องที่ นายกิตตน์สมบัติ ขอถอนตัวแล้ว ตนไม่ขัดข้องแต่อย่างใด เพราะอยากให้สองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่า ในอนาคต มร.ยูริ โพลสกี้ จะมีนโยบายที่ดีมาพัฒนาวงการกีฬาเทนนิสเอเชีย ซึ่งจะส่งผลถึงประเทศไทย รวมทั้งส่งผลดีต่อความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับคาซัคสถานด้วย
ขณะที่ นายไทยทนุ กล่าวว่า แม้ว่า มร.ยูริ โพลสกี้ จะขอให้ นายกิตตน์สมบัติให้การสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ มร.ยูริ โพลสกี้ ก็ให้คำมั่นสัญญาว่า จะเสนอชื่อ นายกิตตน์สมบัติ เป็นประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพของ เอทีเอฟ ในการประชุมครั้งแรกของบอร์ด เอทีเอฟ ชุดใหม่
มร.ยูริ โพลสกี้ ยังได้กล่าวขอบคุณประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพที่ดีในการจัดประชุมครั้งนี้ รวมทั้งขอบคุณ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ที่ให้การสนับสนุนจนได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธาน เอทีเอฟ คนใหม่ ในครั้งนี้ สำหรับ นายกิตตน์สมบัตินั้น รู้จักกันมานานแล้ว และเป็นผู้ที่ทำผลงานให้ เอทีเอฟ ไว้อย่างดี ตนดีใจที่ได้รับการสนับสนุนจากทุกคน รวมถึงประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่สำคัญในเอเชียอย่างมาก ดังนั้น ในอนาคต จะมีโครงการร่วมกัน
ประเทศไทยมีความสวยงาม ให้การต้อนรับดีมาก ผู้คนยิ้มแย้ม จึงหวังว่า จะได้เดินทางมาประเทศไทยบ่อยๆ และช่วยในเรื่องของการพัฒนากีฬาเทนนิส เพราะนักกีฬาเอเชียมีความสามารถและเชื่อว่าจะก้าวไปสู่ระดับโลกได้แน่นอน