คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เริ่มฤดูกาลปกติ 2023/24 มา 1 เดือนเศษ ถึงเวลาของการรีวิวการเสริมทัพตัวสำคัญๆ สามารถปรับตัวกับทีมใหม่มากหรือน้อยแค่ไหน สำหรับเป้าหมายล่าแชมป์
การเทรด เดเมียน ลิลลาร์ด ไป มิลวอกี บัคส์ เขย่าราคาพูลเต็งแชมป์ของ 2 ท็อปทีมฝั่งตะวันออก หลังย้ายจาก ปอร์ตแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส มาจับคู่ ยานนิส อันเตโตคุมโป และ บอสตัน เซลติกส์ รองแชมป์เก่า คว้าส่วนเกินดีกรี ออล-สตาร์ ของ บัคส์ อย่าง จรู ฮอลิเดย์ ร่วมทีม
ดีลใหญ่ฝั่งตะวันตก เจมส์ ฮาร์เดน ถูกเทรดมา แอลเอ คลิปเปอร์ส หลังเปิดเรกูลาร์ ซีซัน 1 สัปดาห์ ชัยชนะเหนือ ดัลลัส มาเวอริกส์ สัปดาห์ที่แล้ว เท่ากับว่าครบ 10 เกม ตามเกณฑ์ของ ไทรอนน์ ลู เฮดโค้ช สำหรับประเมินว่าสิ่งต่างๆ ได้ผลแค่ไหน
ด้าน โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส พยายามรีดศักยภาพสูงสุดของ คริส พอล เพื่อนเก่า ฮาร์เดน แต่ได้รับผลกระทบเมื่อ เดรย์มอนด์ กรีน หายจากไลน์อัพ และ 5 ตัวจริงยังเครื่องร้อนช้า ส่วน แบรดลีย์ บีล ถูกดึงตัวมาแทน พอล ที่ฟีนิกซ์ ซันนส์ แต่ลงเล่นเพียง 3 เกม เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บรบกวน ดังนั้นลองมาเจาะลึกสถิติอย่างใกล้ชิดว่า สตาร์แต่ละคนสามารถยกระดับทีม และต้องพัฒนาอย่างไร
บอสตัน แทบไม่มีอะไรน่าหนักใจหลังคว้า ฮอลิเดย์ เข้าสู่ทีม เนื่องจากการเล่นที่หลากหลาย และประสบการณ์ร่วมของผู้เล่น เซลติกส์ รอบๆ ตัวเขาและ คริสแท็ปส์ พอร์ซินกิส ผู้เล่นใหม่อีกคนหนึ่ง นั่นเป็นสิ่งที่ผ่านการพิสูจน์แล้วด้วยสถิติดีสุด (ชนะ 14 แพ้ 4) และผลต่างคะแนนมากสุดของลีก
ฮอลิเดย์ ยอมลดบทบาทตัวเองเยอะในเกมบุก เซลติกส์ เนื่องจาก เดอร์ริค ไวท์ เป็นการ์ดจ่ายตัวหลัก ประสิทธิภาพของ ฮอลิเดย์ ด้อยลงเช่นกัน แต่ไมมีสิ่งที่ต้องกังวล หลังเขายิง 3 คะแนนเข้าเป้าแค่ 34 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ 39.5 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 3 ซีซัน ที่มิลวอกี
ตรงกันข้าม ฮอลิเดย์ เข้ามาอุดช่องโหว่ของ มาร์คัส สมาร์ท ตัวป้องกันยอดเยี่ยม 2022 บอสตัน ยังเป็นทีมที่เกมรับดีสุดระดับท็อป 5 ของลีก ต่อการครองบอล 100 ครั้ง และไม่มีทีมใดที่มีความพร้อมมากสุดสำหรับการแข่งขันเพลย์ออฟ
ด้านคู่แข่งร่วมคอนเฟอเรนซ์อย่าง มิลวอกี จุดที่น่าเป็นห่วงมากสุด คือ ลิลลาร์ด กับ ยานนิส แทบไม่มีการเล่นแบบ พิค แอนด์ โรลล์ บ่อยนัก ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ง่ายสุดสำหรับ 2 ผู้เล่นที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน โดย ลิลลาร์ด มีลูกยิงระยะกลางและระยะไกลที่หวังผลได้ และ ยานนิส เป็นตัวเจาะพื้นที่ใต้แป้น แต่คนที่คอยทำฉาก (สกรีน) แก่ ลิลลาร์ด กลายเป็น บรูก โลเปซ หรือ บ็อบบี พอร์ติส เสียส่วนมาก
เกมบุกของ บัคส์ ด้อยลงทั้งๆ ที่มี ลิลลาร์ด กับ ยานนิส อยู่บนสนามพร้อมกัน ดูเหมือนเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ตามสถิติระบุว่า การจบสกอร์คุณภาพสูงของ มิลวอกี มาจาก 2 ซูเปอร์สตาร์สร้างจังหวะด้วยตัวเอง ลิลลาร์ด ยิงระยะ 3 คะแนน เข้าเป้าแค่ 33 เปอร์เซ็นต์ ร่วงจาก 37 เปอร์เซ็นต์ ฤดูกาลที่แล้ว แต่ยังคงเป็นมือยิงลูกโทษตัวท็อป 92 เปอร์เซ็นต์ และจำนวนความพยายามยิง 3 คะแนนของเขาสูงกว่าซีซัน 2022/23
ลิลลาร์ด จะร้อนแรงเป็นพิเศษเมื่อถึง "เดม ไทม์ (เวลาคับขัน)" ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ บัคส์ เหนือกว่าคู่แข่งแค่ +2.9 แต้ม กุมสถิติชนะ 12 แพ้ 5 และชนะ 7 แพ้ 1 โดยมี ลิลลาร์ด อยู่มนเกมที่ช่องหว่างห่างกัน 5 แต้ม ช่วง 5 นาทีสุดท้าย
ย้ายฟากมายังตะวันตก พอล ต้องยอมนั่งสำรองครั้งแรกของอาชีพ เนื่องจาก วอร์ริเออร์ส ไม่สามารถส่งตัวจริง 6 คนลงสนามพร้อมกัน ก่อนได้รับโอกาสเป็น 5 คนแรก หลัง สตีเฟน เคอร์รี บาดเจ็บช่วงสั้นๆ และ เดรย์มอนด์ กรีน ถูกแบนจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างการแข่งขัน
ในฐานะสำรอง พอล ทำได้ตามความคาดหวัง ยกระดับทีมที่ไม่มี เคอร์รี บนสนาม ทำสกอร์เหนือกว่าคู่แข่ง 4.2 แต้มต่อการครองบอล 100 ครั้ง นับเป็นครั้งแรกที่ ทีมของ สตีฟ เคอร์ ได้เปรียบคู่แข่งโดยปราศจาก เคอร์รี ตั้งแต่มี เควิน ดูแรนท์ ฤดูกาล 2017/18
"ซีพีทรี" อาจไมโดดเด่นด้านการทำสกอร์เหมือนเดิม ระยะ 3 คะแนนร่วงจาก 37.5 เปอร์เซ็นต์ ฤดูกาลที่แล้ว เหลือ 32 เปอร์เซ็นต์ และความแม่นยำ 46 เปอร์เซ็นต์ ระยะ 2 คะแนน ต่ำสุดของอาชีพตั้งแต่ปี 2016/17 ทว่า พอล ช่วยลดอัตราการเสียเทิร์นโอเวอร์ (เล่นผิดพลาด) ขยับมาอยู่อันดับ 21 ของลีก เทียบกับอันดับ 29 ฤดูกาลที่แล้ว ดังนั้นด้วยสภาพทีมที่ เคลย์ ธอมป์สัน กับ แอนดรูว์ วิกกินส์ ฟอร์มฝืด และ กรีน ถูกแบน ส่งผลให้ วอร์ริเออร์ส ผลงานแพ้มากกว่าชนะ แต่มันอาจแย่กว่านี้หากไม่มี พอล
ที่แอลเอ ข้อสังเกตอยู่ที่ คลิปเปอร์ส เริ่มต้นสถิติ 0-5 นับตั้งแต่ ฮาร์เดน ย้ายมาจาก ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส กระทั่งดร็อป รัสเซลล์ เวสต์บรูก นั่งสำรอง วันที่ 17 พ.ย. สถิติดีดขึ้นเป็น ชนะ 4 แพ้ 1 อาจมองได้ว่าเป็นการปรับทีมที่ได้ผล
ฮาร์เดน ยังคงต้องเรียกความฟิตและหาความลงตัวกับเพื่อนใหม่ เขาแทบไม่ได้ทำสกอร์เลย ค่าเฉลี่ยความพยายามชู้ตแค่ 1 ครั้งต่อเกม บริเวณพื้นที่ใต้แป้น ร่วงจาก 2.4 ครั้งต่อเกม ฤดูกาลที่แล้ว ยิง 6.3 ลูกต่อการครองบอล 100 ครั้ง ภายในเส้น 3 คะแนน ร่วงจาก 9.8 ลูก เมื่อ 1 ปีก่อน
การกินฟาวล์คู่แข่งของ ฮาร์เดน ลดลงเหลือ 7.1 ฟรีโธรว์ต่อการครองบอล 100 ครั้ง ทาบสถิติต่ำสุดของอาชีพ เขาพยายามเน้นการทำสกอร์จากลูกยิง 3 คะแนน ซึ่งไม่ได้แม่นยำเหมือนเดิม โดยยิงเข้าเป้าแค่ 2 จาก 8 ลูก ตลอด 2 เกมล่าสุด ดังนั้นการถอด เวสต์บรูก เป็นสำรอง เป็นการปลดปล่อยจุดเด่นด้านการขับเคลื่อนเกมของ ฮาร์เดน ตามค่าเฉลี่ย 8.6 แอสซิสต์ ตลอด 5 เกมล่าสุด
ถึงกระนั้น ฮาร์เดน เริ่มซีซันช้ากว่าเพื่อนๆ คลิปเปอร์ส ต้องให้เวลามากกว่าก่อนพิพากษา เร็วๆ นี้เราอาจจะได้เห็นเขากลับมาเป็นตัวทำสกอร์ และเกมบุกของ คลิปเปอร์ส หาจุดลงตัวได้
ปิดท้ายแบบสั้น อาการบาดเจ็บหลังของ บีล กลายเป็นข้อจำกัด และความเสี่ยงที่ ซันส์ กล้ารับ ตามสถิติลงเล่น 93 จาก 181 เกม ตั้งแต่ฤดูกาล 2021/22 กอปรกับ เดวิน บูเกอร์ บาดเจ็บด้วยอีกคน สถานการณ์ของทีมยังถือว่าน่าพอใจที่อยู่เหนือโซน เพลย์-อิน (อันดับ 7-10) ตัวสนับสนุนอย่าง เอริค กอร์ดอน กับ เดรย์สัน อัลเลน ยังพออุดช่องโหว่ที่ทั้งคู่ทิ้งไว้ได้
กรณี บูเกอร์ ฟิตสมบูรณ์ คาดว่าจะได้รับมอบหมายตำแหน่งการ์ดจ่าย ซึ่งคาดไว้ว่า บีล จะทำหน้าที่นี้ สถิติ 8.9 แอสซิสต์ต่อเกมของ บูเกอร์ มีสิทธิ์เป็นสถิติสูงสุดของอาชีพ และไม่ต้องเน้นด้านทำสกอร์บ่อยนัก แต่จนถึงตอนนี้ ซันส์ ปรับตัวตามสถานกาารณ์ได้ดีเพียงพอ ท่ามกลางปัญหาตัวหลักบาดเจ็บ