ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ถอนแค้น ซูเปอร์โบว์ล LVII (57) เอาชนะ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ หวุดหวิด 21-17 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) "มันเดย์ ไนท์" ที่สนามแอร์โรว์เฮด สเตเดียม วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน
หลังตกเป็นรอง 10 แต้มช่วงพักครึ่ง (7-17) อีเกิลส์ ต้านทาน แพทริค มาโฮมส์ และผองเพื่อน ตลอด 30 นาทีสุดท้าย ขณะที่ จาเลน เฮิร์ตส ควอเตอร์แบ็ก กลับสู่ฟอร์มเก่งจากครึ่งแรกอันน่าผิดหวัง ถือบอลวิ่ง 2 ทัชดาวน์ รวมเพลย์มุดแนวป้องกันระยะ 1 หลา ถึงเอนด์ โซน พลิกขึ้นนำ 21-17
ฟิลาเดลเฟีย (ชนะ 9 แพ้ 1) กลายเป็นทีมแรก ซึ่งชนะอย่างน้อย 9 จาก 10 เกมแรก 2 ซีซันติดต่อกัน นับตั้งแต่ อินเดียนาโปลิส โคลท์ส ทำไว้ปี 2005-2006 และยัดเยียดความปราชัยแก่ แอนดี หรีด เจ้านายเก่า ครั้งแรกจากการพบกัน 5 ครั้ง นับตั้งแต่ย้ายมาคุม แคนซัส ซิตี
ทราวิส เคลซี ปีกใน แคนซัส ซิตี ปราชัยแก่ เจสัน พี่ชาย ซึ่งเล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ของ อีเกิลส์ ครั้งแรก โดยเสียฟัมเบิลบริเวณเขต เรด โซน (ตั้งแต่ เอนด์ โซน ถึง เส้น 20 หลาแดนคู่ต่อสู้) ช่วงควอเตอร์ 4 ขณะ เจ้าถิ่น ขึ้นนำ 17-14
แชมป์เก่า มีความหวังเฮือกสุดท้าย เหลือเวลาน้อยกว่า 2 นาที เปลี่ยนดาวน์ที่ 4 เป็นดาวน์ที่ 1 สำเร็จ และได้โทษเล่นรุนแรงเกินเหตุกับควอเตอร์แบ็ก (a roughing-the-passer) ทว่า มาโฮมส์ บอมบ์ยาวให้ มาร์เกวซ วัลเดส-สแคนท์ลิง ปีกนอก รับกระฉอก ชวดทัชดาวน์ระยะ 51 หลาอย่างน่าเสียดาย จากนั้น ทีมรับ อีเกิลส์ เช็กบิลหลังป้องกันการเล่นดาวน์ที่ 4
เกมนี้ เฮิร์ตส ขว้างได้ระยะ 150 หลา เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์ โดยมี ดี'อันเดร สวิฟต์ รันนิงแบ็ก แบ่งเบาภาระ ถือบอลวิ่ง 76 หลา 1 ทัชดาวน์ และ เดอวอนตา สมิธ ปีกนอก รับบอล 6 ครั้ง ระยะ 99 หลา
นับเป็นครั้งที่ 9 ซึ่งคู่ชิง ซูเปอร์โบว์ล โคจรมาพบกันช่วงฤดูกาลปกติถัดไป โดยทีมแชมป์ชนะมา 4 ครั้ง และทีมที่แพ้ครั้งล่าสุด คือ ดัลลัส คาวบอยส์ ฤดูกาล 1993 (พบ บัฟฟาโล บิลล์ส)
ด้าน ชีฟส์ (ชนะ 7 แพ้ 3) มาโฮมส์ ขว้างได้ระยะ 177 หลา 2 ทัชดาวน์ เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์ ตรงเขตเอนด์ โซน ไอเซียห์ ปาเชโก รันนิงแบ็ก ถือบอลวิ่ง 89 หลา
ทั้งคู่เสมอกัน 7-7 หลัง มาโฮมส์ กับ เฮิร์ตส ขว้างคนละ 1 ทัชดาวน์ ตามลำดับ กระทั่ง มาโฮมส์ ขว้างทัชดาวน์ 4 หลา ให้ เคลซี แซงนำ 14-7 เหลือเวลา 1 นาที 45 วินาที ก่อนพักครึ่ง
เฮิร์ตส ได้ครองบอลบุกกลับ แต่ถูกแซ็กโดย เทรนท์ แม็คดัฟฟี กับ จอร์จ ตาร์ลาฟติส แล้วเสียบอลคืนขณะเหลือเวลา 44 วินาที เพียงพอสำหรับ มาโฮมส์ บุกมาถึงระยะฟิลด์โกลให้ แฮร์ริสัน บัตเกอร์ เตะระยะ 43 หลา