แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน นักซิ่ง เรด บูลล์ สร้างสถิติศึกฟอร์มูลา วัน คว้าแชมป์สนามที่ 18 ของฤดูกาล รายการ ลาส เวกัส กรังปรีซ์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน ถึงแม้ถูกปรับเวลา 5 วินาที
ชาร์ลส เลอแคลร์ นักขับ เฟอร์รารี แซง เซร์คิโอ เปเรซ คู่หูของ เวอร์สแตพเพน รอบสุดท้าย เข้าเส้นชัยอันดับ 2 ตามด้วย เอสเตบัน โอคอง นักขับชาวฝรั่งเศส สังกัด แอลพีน จบอันดับ 4 หลังสิ้นสุดการประลองความเร็วอันน่าตื่นเต้น โดยมีการเปลี่ยนผู้นำและแซงกันหลายจังหวะ
เวอร์สแตพเพน วิพากษ์วิจารณ์ "เอฟวัน (F1)" จัดการแข่งขัน ที่ลาส เวกัส หลังเว้นวรรคนาน 41 ปี โดยคอมเมนต์ว่าเป็นการโชว์ 99 เปอร์เซ็นต์ ทว่าหลังบึ่งรถหมายเลข 1 รับธงตาหมากรุกคนแรก เชาฉลองกับทีมงานคำว่า "วีว่า ลาส เวกัส" ผ่านวิทยุสื่อสาร
สาเหตุที่ถูกเรียกว่าเป็นการแสดงมากกว่ากีฬา เนื่องจากเหล่าเซเลบริตีทั้งวงการเพลง, กีฬา และบันเทิง ปรากฏตัวบนกริดก่อนออกสตาร์ท ขณะที่รอบซ้อมวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (16 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ถูกยกเลิก หลังฝ่าท่อบนพื้นแทร็กหลวม
เริ่มการแข่งขัน ปัญหายางยึดเกาะพื้นแทร็กต่ำ เป็นเหตุให้เกิดไฮไลท์สำคัญต่างๆ นานา ทั้งการแซงและเปลี่ยนผู้นำ กระทั่ง เวอร์สแตพเพน เฉือน เลอแคลร์ ด้วยผลต่างเวลา 2.07 วินาที
นักแข่งชาวดัตช์ ประจำบนกริดที่ 2 แล้วขึ้นนำตั้งแต่โค้งแรก แต่ถูกลงโทษ 5 วินาที ข้อหาเบียด เลอแคลร์ เจ้าของโพล โพซิชัน ต้องตีโค้งวงนอก
เลอแคลร์ ตามมาติดๆ แล้วแซงขึ้นนำรอบที่ 16 ก่อน เวอร์สแตพเพน เข้าพิตเพื่อชดใช้ความผิดรอบที่ 22 ส่งผลให้ เปเรซ เกาะกลุ่มแถวหน้า
เลอแคลร์ กับ เปเรซ แย่งชิงผู้นำกันอย่างดุเดือด กระทั่ง เวอร์สแตพเพน ทวงตำแหน่งคืนโดยแซง เปเรซ กับ เลอแคลร์ รอบที่ 36 และ 37 ตามลำดับ
จากนั้น เลอแคลร์ หล่นมาอันดับ 3 หลังเบรกลึก เปิดช่องแซงแก่ เปเรซ ก่อนเกิดจุดพลิกผันรอบสุดท้าย
จอร์จ รัสเซลล์ นักขับ เมอร์เซเดส ปะทะกับ เวอร์สแตพเพน จนกันชนหน้าเสียหาย ถูกปรับเวลาเพิ่ม 5 วินาที ก่อนบึ่งรถเข้าเส้นชัยอันดับ 4 แต่ร่วงมาอันดับ 8
คาร์ลอส ไซนซ์ จูเนียร์ จาก เฟอร์รารี ออกสตาร์ทกริดที่ 12 หลังถูกปรับถอยหลัง 10 กริด ขยับขึ้นมาจบอันดับ 6 รองจาก แลนซ์ สโตรลล์ จาก แอสตัน มาร์ติน
