พชร คงวัดใหม่ จบด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 263 หลังเก็บรอบสุดท้ายได้เพียง 1 อันเดอร์พาร์ 69 รั้งอันดับ 3 ร่วมในศึกอินเตอร์เนชั่นแนลซีรีส์ รายการ “ฮ่องกง โอเพ่น” ที่สนามฮ่องกง กอล์ฟ คลับ พาร์ 70 เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ เบน แคมพ์เบล โปรมือ 635 ของโลกจากนิวซีแลนด์ เบียดคว้าชัยชนะด้วยการพัตต์เบอร์ดี้แชมป์ในหลุมสุดท้ายจบด้วยสกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ 261 เฉือนชนะ คาเมรอน สมิธ ดาวดังของโลกจากออสเตรเลียไปเพียงสโตรคเดียว
เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ รายการ ฮ่องกง โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาท ณ สนามฮ่องกง กอล์ฟ คลับ ระยะ 6,710 หลา พาร์ 70 ในเมืองฟานหลิง เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระหว่างวันที่ 9-12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีโปรกอล์ฟชื่อดังของโลกตบเท้าเข้าชิงชัยกับเหล่าผู้เล่นแถวหน้าของทัวร์ อาทิ คาเมรอน สมิธ มือ 20 ของโลกจากออสเตรเลีย, แพทริก รีด แชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2018 จากสหรัฐฯ, แกรม แม็คดาวล์ แชมป์ยูเอส โอเพ่น ปี 2010 จากไอร์แลนด์เหนือ ทั้งนี้มีนักกอล์ฟชาวไทยผ่านตัดตัวได้ทั้งสิ้น 17 คน
รอบสุดท้ายของการชิงชัย โปรเพชร-พชร คงวัดใหม่ โปรแถวหน้าของเอเชียนทัวร์ และ คาเมรอน สมิธ โปรมือ 20 ของโลกจากออสเตรเลีย ออกสตาร์ทในตำแหน่งผู้นำร่วมที่สกอร์คนละ 16 อันเดอร์พาร์ โดยมี เบน แคมพ์เบล ดาวรุ่งจากนิวซีแลนด์ลงเล่นในกลุ่มเดียวกันด้วยสกอร์ตามหลังหนึ่งสโตรค ปรากฎว่า พชร มีโอกาสทำสกอร์ขึ้นนำที่สกอร์ 19 อันเดอร์พาร์ เมื่อจบหลุม 13 ทว่าไปพลาดทีออฟเข้าป่าในหลุม 16 เสียดับเบิ้ลโกบี้ ก่อนแก้คืนด้วยเบอร์ดี้ในหลุมถัดมา สกอร์ขึ้นมาที่ 18 อันเดอร์เท่ากับสมิธและแคมพ์เบลเมื่อเหลือการเล่นเพียงหลุมเดียว ก่อนที่แคมพ์เบลเป็นฝ่ายพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 15 ฟุตคว้าแชมป์ด้วยการจบ 18 หลุมเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 66 สกอร์รวมสี่วัน 19 อันเดอร์พาร์ 261 เฉือนชนะ แคมพ์เบล ที่ทำพาร์ในหลุมสุดท้ายเข้ามาสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 68 ไปเพียงสโตรคเดียว
ทางด้าน พชร พลาดเสียโบกี้ในหลุมสุดท้าย ทำให้สกอร์ 18 หลุมเหลือ 1 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วันมี 17 อันเดอร์พาร์ 263 รั้งอันดับสามร่วมกับ ริชาร์ด ทีลี โปรมือดีจากแคนาดา ที่เครื่องร้อนวันสุดท้ายหวด 6 อันเดอร์พาร์ 64 แบ่งเงินรางวัลไปคนละ 113,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 4 ล้านบาท ขณะที่แคมพ์เบลคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ ครั้งแรกในชีวิต พร้อมเงินรางวัลไป 360,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 12.6 ล้านบาท ส่วน สมิธ รับเงินรางวัลรองแชมป์ไป 220,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 7.7 ล้านบาท
พชร คงวัดใหม่ ซึ่งยังไล่ล่าแชมป์เอเชียน ทัวร์ รายการที่สองให้ตัวเองเผยว่า “วันนี้ตีมาดีตลอด แต่พัตต์อาจไม่เฉียบคมเท่ากับ 2-3 วันแรก มาพลาดตีเข้าป่าหลุม 16 ซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่ยาก และทำอะไรไม่ได้ ซึ่งเป็นจังหวะที่ยาก ณ ขณะนั้น และมีต้นไม้หักที่เป็นอุปสรรค จะถอยหลังดรอปก็ไม่ได้ ก็ต้องพยายามตีต่อ โดยรวมวันนี้ยังทำสกอร์อันเดอร์อยู่ถือว่าใช้ได้ และมีโอกาสเล่นให้แฟนๆ ให้เชียร์ก็พอใจ สัปดาห์นี้ได้ขับเคี่ยวกับมือดีของโลกอย่างคาเมรอนก็รู้สึกเป็นเกียรติ และถือว่าตัวเองทำได้ดี แค่มันยังไม่ใช่วันของเรา”
ขณะที่ผลงานนักกอล์ฟไทยที่น่าสนใจ อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ หวดเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 66 จากการทำ 3 เบอร์ดี้ กับ 1 อีเกิ้ล แต่พลาดเสียโบกี้ในหลุมสุดท้าย รวมสี่วันมี 13 อันเดอร์พาร์ 267 จบที่อันดับ 12 ร่วมกับ แกรม แม็คดาวล์ แชมป์ยูเอส โอเพ่น ปี 2010 จากไอร์แลนด์เหนือ และชาน ชิ-ชาง จอมเก๋าจากไชนีสไทเป ส่วนโปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ และ สดมภ์ แก้วกาญจนา จบด้วยสกอร์รวมคนละ 12 อันเดอร์พาร์ 268 ตามมาที่อันดับ 15 ร่วมกับ แพทริก รีด แชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2018 และแอนดี้ โอเกิลทรี มือหนึ่งอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ออเดอร์ ออฟ เมอริต สองโปรชาวอเมริกัน