จากความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการเอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมาเก๊าในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาระดับโลกในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของมาเก๊าในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการจัดกีฬาระดับโลก และขับเคลื่อนการผสมผสานกีฬา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
กอล์ฟรายการมาเก๊า โอเพ่น หวนคืนสู่เวทีเอเชียนทัวร์อีกครั้งในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2017 และเป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 20 ได้รับการสนับสนุนจากเอสเจเอ็ม รีสอร์ท (เอสเจเอ็ม) โดยเซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนหลักเป็นเวลา 3 ปี กำหนดแข่งขัน ณ สนาม มาเก๊า กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ระหว่างที่ 12-15 ตุลาคมที่ผ่านมา มีนักกอล์ฟระดับแถวหน้าของเอเชีย 144 คน ร่วมประชันวงสวิง โดยมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 35 ล้านบาท ซึ่งในการแข่งขันตลอดสี่วันเป็นไปด้วยความสนุกตื่นเต้นด้วยเกมที่เข้มข้นสูสี และเป็น ลี มิน วู โปรกอล์ฟดาวรุ่งจากออสเตรเลียคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
ขณะเดียวกันการแข่งขันครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากแฟนกีฬากอล์ฟเข้าชมเกมในสนามจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงสองวันสุดท้าย และได้ชมการต่อสู้เบียดลุ้นแชมป์อย่างสนุกระหว่าง ลี มิน วู และ ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ นักกอล์ฟไทย ซึ่ง มิน วู กล่าวภายหลังคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะ ภูมิ ไปสองสโตรคว่า “ชัยชนะครั้งนี้มีความหมายกับผมมาก และผมภูมิใจกับแนวทางการเล่นของตัวเอง รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆของในสนามได้ดี”
โปรกอล์ฟเชื้อสายเกาหลีจากออสเตรเลียระบุอีกว่า มีความสุขกับการมาแข่งขันที่มาเก๊าและการเข้าพักที่แกรนด์ ลิสบัว พาเลส มาเก๊า โรงแรมสุดหรูแบบครบวงจรซึ่งอยู่ใกล้กับสนามแข่งขัน โดยกล่าวเสริมว่า “เป็นสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมมาก ผมสนุกกับการมาแข่งขันกอล์ฟที่มาเก๊า โรงแรมที่พักก็ยอดเยี่ยม บางทีอาจจะเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดที่ผมเคยเข้าพักเลยก็ว่าได้ สนามแข่งขันก็สมบูรณ์แบบ และผมก็ชื่นชอบอาหารเอเชีย นับเป็นสัปดาห์ที่วิเศษจริงๆ และหวังว่าจะได้กลับมาอีก”
ทางฝั่งแฟนกีฬากอล์ฟที่พาเหรดเข้ามาชมเกมในสนามมาเก๊า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ยังได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม รวมถึงจุดที่ได้รับความนิยมมากคือจุดชมวิวหลังทีบ็อกซ์หลุม 10 เพื่อสัมผัสทัศนียภาพอันงดงามของสนามกอล์ฟและทะเลจีนใต้ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ ใน Fan Village พร้อมลิ้มรสอาหารเมนูเด็ด และได้พบกับทูตการท่องเที่ยวของเอสเจเอ็ม “Sam the Rooster” ที่คอยต้อนรับแฟนกอล์ฟตลอดทั้งสัปดาห์
ขณะที่ เดซี โฮ กรรมการผู้จัดการ เอสเจเอ็ม รีสอร์ท เผยว่า ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่การแข่งขันกอล์ฟเอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น ปีนี้ ดำเนินไปอย่างราบรื่นและได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากทั้งนักกอล์ฟและแฟนกีฬา การแข่งขันรายการนี้ถือเป็นไฮไลท์ของปฏิทินกีฬานานาชาติประจำปีของมาเก๊า ซึ่งแสดงให้เห็นศักยภาพของมาเก๊าในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาระดับโลกและการต้อนรับที่อบอุ่น
“งานนี้คือหนึ่งในการแข่งขันที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดในเอเชีย เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ ที่มีความเก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า และเป็นความภาคภูมิใจของบ้านเมืองเรา ซึ่งปีนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ 20 ที่ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ สมาคมกอล์ฟ สโมสรของเอกชน และอุตสาหกรรมในพื้นที่ เอสเจเอ็มจึงมีความภูมิใจที่ได้สานต่อมรดกนี้ และดึงดูดแฟน ๆ กับผู้สนที่ใจกีฬาจากทั่วโลกเข้ามา โดยมอบช่วงเวลาที่น่าจดจําให้กับพวกเขา อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของเมืองมาเก๊าอีกด้วย”
เดซี โฮ ยังกล่าวต่อไปว่า การจัดงานนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่งดงามของการทำงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานกีฬาของมาเก๊า เอเชียนทัวร์ ไอเอ็มจี และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อจัดการแข่งขันครั้งต่อไปให้ดียิ่งขึ้นและยิ่งใหญ่ขึ้น
“เจตนารมณ์อันแน่วแน่อย่างหนึ่งของเรา คือดำเนินการสนับสนุนงานกีฬานี้ต่อไปในทุก ๆ ปี และจริง ๆ แล้ว เอสเจเอ็ม ให้การสนับสนุนงานกีฬามามากมาย เพราะหนึ่งในแนวคิดของเราคือการสนับสนุนการส่งเสริม ‘การท่องเที่ยวและกีฬา’ ของรัฐบาลมาเก๊า โดยการนำเข้างานกีฬาระดับโลก เพื่อมุ่งเสริมสร้างให้มาเก๊ากลายเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวและการพักผ่อนในระดับโลกให้จงได้”
สำหรับ เอสเจเอ็ม รีสอร์ท เป็นเจ้าของ ผู้ดำเนินการ และผู้พัฒนารีสอร์ทเพื่อความบันเทิงครบวงจรชั้นนำในมาเก๊า โดยแบรนด์ลิสบัว เติบโตขึ้นจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ผลงานด้านการท่องเที่ยวให้บริการลูกค้าในหลากหลายกลุ่ม และมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมอันโดดเด่น เอสเจเอ็มได้วางรากฐานสำหรับการเติบโตของมาเก๊าในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา และยังคงลงทุนต่อไป ในขณะที่มาเก๊าเติบโตขึ้นจนกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการพักผ่อนระดับโลก
โรงแรมแกรนด์ ลิสบัว พาเลส มาเก๊า เป็นรีสอร์ทเรือธงแห่งใหม่ล่าสุดของเอสเจเอ็ม ในเขตโคไท และยังเป็นรีสอร์ทครบวงจรแห่งใหม่ล่าสุดในมาเก๊า ได้รับแรงบันดาลใจจากอาคารขนาดใหญ่ของยุโรปที่ผสมผสานกับลวดลายจีนแบบดั้งเดิม ให้บริการห้องพักและห้องสวีทหรูหราจำนวน 1,890 ห้องภายในอาคารโรงแรมที่ได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่นสามหลัง ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ ลิสบัว พาเลส มาเก๊า สไตล์ ชินัวซีรี ที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตกกับศิลปะตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน, เดอะคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ และ พาลาสโซ่ เวอร์เซส ซึ่งเป็นรีสอร์ทแห่งเดียวในโลกที่มีอาคาร โรงแรม แบรนด์แฟชั่น สองแห่ง อีกทั้งยังมีห้างสรรพสินค้า เดอะ บาร์ซ่า ขนาด 75,000 ตารางเมตร สถานที่จัดประชุมและจัดงานอเนกประสงค์ สปา และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสุขภาพ
ทางด้าน ปุน เวง คุน ประธานสำนักงานกีฬาเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เชื่อมั่นว่าความสำเร็จของการจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น ในช่วงตุลาคมที่ผ่านมา ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว เสริมภาพลักษณ์และยกระดับมาเก๊าในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาระดับโลกในอนาคต โดยเผยว่า “กอล์ฟรายการ เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และช่วยส่งเสริมมาเก๊าให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ เป็นเรื่องยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นแฟนกีฬารุ่นเยาว์จำนวนมากท่ามกลางผู้ชมที่เข้ามาชมการแข่งขันอย่างคับคั่งตลอดสี่วัน และเห็นการประชันฝีมือของโปรกอล์ฟชั้นนำของเอเชียนทัวร์และดาวรุ่งหน้าใหม่ที่กำลังมาแรง สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมและสนับการเล่นกีฬา Sport for All และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีเยาวชนได้รับแรงบันดาลใจและหันมาเล่นกีฬากอล์ฟมากขึ้น"
ทั้งนี้ สำนักงานกีฬาเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (มาเก๊า) เป็นหน่วยงานรัฐบาลที่กำหนดวัตถุประสงค์หลักของรัฐบาลในด้านกีฬา โดยมีหน้าที่สนับสนุนและส่งเสริมการแข่งขันกีฬา กำหนดเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการพัฒนากีฬา และประสานงานระหว่างสมาคมกีฬาและหน่วยงานต่างๆ
