คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
หลายปีที่ผ่านมา วงการมวยโลกบ้านเราซบเซาขั้นสุด ชนิดที่ว่าแชมป์โลกชาวไทยที่ผ่านมามีกี่คน ใครบ้าง ชื่อเสียงเรียงไร แฟนกีฬาทั่วๆ ไปแทบไม่รู้จัก ขึ้นชกแต่ละครั้งก็ชกเงียบๆ แทบไม่มีข่าวให้เห็น และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแชมป์โลกชาวไทย “เพชรมณี ก่อเกียรติยิม” หรือ “เจ้าญา” ปัญญา ประดับศรี แชมป์โลกรุ่นมินิมั่มเวท 105 ปอนด์ของสภามวยโลก WBC ก็ “โกอินเตอร์” เดินทางไปให้นักชกญี่ปุ่นท้าชิงเข็มขัดโลกถึงประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง “เจ้าญา” ก็ยืนได้ครบยกก่อนพ่ายคะแนนไปแบบชาดลอย 3 เสียง 109-119, 109-119 และ 111-117
ผลการชกแบบนี้เอาจริงก็ไม่ถึงกับแปลกใจ ถ้าจะแปลกใจก็คือต้องชื่นชมว่านักชกไทยสามารถยืนได้จนครบยกมากกว่า เพราะส่วนใหญ่นักชกไทยรุ่นหลังๆ นี่ ไปชกนอกบ้านทีไรเหมือนไปหาที่นอน เพราะจบเร็วทุกที บางคนแค่ยกแรกก็มี บางคนยกสอง นานๆ ทีจะมีคนยืนถึงยก 3 หรือกว่านั้น เรียกว่ารีบไปรีบนอนไม่ต้องเสียเหงื่อเยอะ “เจ้าญา” ไม่รีบนอน ยืนจนครบยกก็ต้องขอชื่นชม “เจ้าญา” นั้นถือเป็นแชมป์โลกอาภัพคนหนึ่งของบ้านเรา ได้แชมป์มาด้วยการเอาชนะ “ยักษ์แคระ” วันเฮง มีนะโยธิน แบบมีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการ “ส่งไม้ต่อ” ให้ หลังจากวันเฮงทำท่า “หมดไฟ” โดยช่วงที่ได้แชมป์นั้นก็เป็นช่วงโรค “โควิด” ระบาด ทำให้เพชรมณีแทบไม่ได้ขึ้นชกป้องกันตำแหน่ง ได้ชกบ้างก็ชกแต่กับนักมวยไทยด้วยกัน พอให้มีความเคลื่อนไหวเท่านั้น มีไฟต์หลังๆ ที่มีการเรียกนักชกญี่ปุ่นมาท้าชิงแชมป์บ้าง ก็ชกป้องกันตำแหน่งไปได้เรื่อยๆ แบบเงียบๆ แทบไม่มีข่าวให้แฟนกีฬาได้รับรู้ สุดท้ายพอได้ “โกนอก” ก็เข็มขัดกระเด็นตามระเบียบ “เจ้าญา” ตอนนี้อายุ 32 แล้วก็ไม่รู้ทางค่ายจะผลักดันต่ออีกแค่ไหน หรือจะพอแค่นี้ แต่ก็พอได้เกียรติประวัติว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นแชมป์โลกมาเหมือนกัน
ทำให้แชมป์โลกชาวไทยตอนนี้เหลือเพียง “เจ้านูน” น็อคเอ๊าท์ ซีพีเอฟ แชมป์รุ่นเดียวกัน (105 ปอนด์) ของสมาคมมวยโลก WBA อีกเพียงรายเดียว ตอนนี้ตำแหน่งแชมป์โลกก็ง่อนแง่นๆ เพราะไม่ได้ขึ้นชกมาปีเศษแล้ว ก่อนหน้านี้ต้นปีนักชกไทยที่ได้รับการยกย่องเป็น “ซูเปอร์แชมเปี้ยน” มีกำหนดจะพบกับ อีริค โรซ่า แชมป์โลก “ปกติ” ชาวโดมินิกัน แต่นักชกโดมินิกันมาถึงไทยแล้วมีปัญหาที่ตม. ทำให้เกิด “งอน” เดินทางกลับประเทศไปเลยแถมกล่าวหาว่าทางเราวางแผนให้ทางเขาเกิดความขลุกขลักเพื่อให้สภาพร่างกายไม่พร้อมซะงั้น พอทางสมาคมมวยโลกให้ประมูลศึกนี้กันใหม่ ทางเราก็ใส่ตัวเลขแบบ “ไม่เอา” ปล่อยให้ทางโรซ่าได้จัดศึกนี้ แต่จนแล้วจนรอดทางโรซ่าก็ยังจัดศึกนี้ไม่ได้ ทำให้คู่นี้ยังไม่ได้พบกันซักที ตอนนี้ทางสมาคมมวยโลกเลยออกมาฮึ่มๆ แล้วว่าจะ “ปลด” ทั้งคู่ออกจากตำแหน่งแชมป์โลกเลย ก็ต้องลุ้นกันไปว่า “เจ้านูน” จะเข็มขัดหลุดนอกสังเวียนหรือเปล่า ถ้าถึงแบบนั้นก็จะเป็นช่วงมืดมนของวงการมวยโลกไทยอีกครั้งที่แชมป์โลก “สูญพันธุ์” หมด
ต้องถือว่าเป็นยุคมืดของมวยโลกไทยจริงๆ แชมป์โลกที่มีก็ไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนมวย บรรดา “มวยสร้าง” ทั้งหลายก็ยังไม่เห็นใครที่จะมาเป็นความหวังที่จะเป็นแชมป์โลกคนต่อไป ตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่ามวยโลกนั้นเสื่อมความนิยมลงไปเยอะ เม็ดเงินที่จะเข้ามาในวงการก็อัตคัดเต็มที บรรดาค่ายมวยทั้งหลายก็สนับสนุนแบบ “เต็มที่” ไม่ไหว แล้วพอไม่กล้าดึงมวยดีๆ มาชก ไม่กล้าจ้างเทรนเนอร์ดีๆ ไม่กล้าโปรโมท มวยโลกบ้านเราก็คงเงียบเหงาไปเรื่อยๆ ยังมองไม่ออกว่าจะกลับมายิ่งใหญ่อย่างรุ่นก่อนๆ ได้ยังไงเหมือนกัน