ฮิโรมิ โคบายาชิ ประธานแอลพีจีเอ ออฟ เจแปน (เจแอลพีจีเอ) ตั้งเป้าผลักดันทัวร์กอล์ฟอาชีพหญิงของญี่ปุ่นสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกและขยายฐานแฟนกีฬากอล์ฟทั่วโลก
โคบายาชิเชื่อว่าการจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายต้องเน้นส่งเสริมสนับสนุนให้นักกอล์ฟหญิงในภูมิภาคเอเชีย เล็งเห็นว่าเจแอลพีจีเอคือจุดหมายปลายทางที่จะช่วยยกระดับนำพาเส้นทางสายอาชีพไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ทั้งนี้โคบาชิและสมาชิกในเจแอลพีจีเอทัวร์ ต่างมั่นใจว่าการมีนักกอล์ฟจากต่างประเทศทั่วโลกเข้ามาร่วมแข่งขันในเจแอลพีจีเอทัวร์เพิ่มมากขึ้น จะส่งผลดีต่อทัวร์ในภาพรวม
ประธานเจแอลพีจีเอทัวร์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ณ ตอนนี้จะเห็นว่ามีนักกอล์ฟเดินทางไปแข่งขันในทัวร์อาชีพ นอกประเทศบ้านเกิดของตัวเองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และนักกอล์ฟชาวญี่ปุ่นก็ตระหนักถึงความสำคัญของการยกระดับเจแอลพีจีเอทัวร์สู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยการต้อนรับคู่แข่งจากต่างชาติเข้าร่วมแข่งขันมากขึ้น ฉันเชื่อมั่นว่าเมื่อมีนักกอล์ฟทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมแข่งขัน จะทำให้ทัวรฺนาเมนท์มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้เข้มข้นยิ่งขึ้นด้วย”
ทั้งนี้ โคบายาชิ เดินทางไปแข่งขันทั่วโลกในช่วงพีคของอาชีพ เธอคว้าแชมป์ 15 รายการ จากสามทัวร์ดังอย่าง เจแอลพีจีเอ, แอลพีจีเอ สหรัฐอเมริกา และเลดีส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์
สำหรับเจแอลพีจีเอทัวร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 และพัฒนายกระดับมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในทัวร์กอล์ฟชั้นนำในระดับนานาชาติ และเป็นทัวร์ที่มีรายการชิงชัยมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผานมา เฉพาะในฤดูกาลนี้มีการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 38 รายการ โดย รายการล่าสุดที่เพิ่งปิดฉากลงไปคือการแข่งขัน เจแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ โคนิก้า มินอลต้า คัพ ครั้งที่ 56 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ 26 ของฤดูกาลนี้ ซึ่งแชมป์ตกเป็นของ โซระ คามิยะ นักกอล์ฟสาววัย 20 ปี
นักกอล์ฟที่ต้องการเข้าร่วมแข่งขันในเจแอลพีจีเอทัวร์ ต้องผ่านการคัดเลือกเช่นเดียวกันทัวร์อาชีพอื่นๆ โดยสามารถคว้าสิทธิ์ผ่าน เจแอลพีจีเอ เพลเยอร์ เซอร์ติฟิเคชั่น เทสต์ หรือคลอลิฟายอิ้ง สคูล ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 สเตจ ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ยังสามารถคว้าตั๋วได้จากทัวร์รองของญี่ปุ่น หรือสเต็ป อัพ ทัวร์
โคบายาชิ กล่าวเสริมว่า "ฉันยินดีเป็นอย่างหากมีนักกอล์ฟต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาแข่งขันในทัวร์ญี่ปุ่น นักกอล์ฟอาชีพควรได้ลงเล่นในทัวร์ที่พวกเขาสามารถผ่านการคัดเลือกเข้ามาได้ เราพร้อมจะต้อนรับนักกอล์ฟจากทั่วเอเชีย หลายคนอาจกังวลเรื่องภาษาและความท้าทายอื่นๆ ที่จะตามมา แต่ก็เป็นเรื่องที่พบเจอทุกที่ นักกอล์ฟอาชีพต้องพิจารณาเลือกว่าทัวร์ใดเหมาะสมกับพวกเขามากที่สุดและเป็นทัวร์ที่ต้องการลงแข่งขัน”
นอกจากนี้ โคบายาชิ เชื่อมั่นว่าการถ่ายทอดสดการแข่งขันเจแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ไปยัง 6 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเกาหลีใต้ (SPOTV) มาเลเซีย (Astro) อินโดนีเซีย (TVRI), จีน (Golf Channel China), ไทย (Workpoint), และไต้หวัน (MOMO TV) คือจุดเริ่มต้นสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่น่าตื่นเต้นของเจแอลพีจีเอทัวร์
โคบายาชิ กล่าวเสริมอีกว่า "เราได้ขยายฐานแฟนกีฬากอล์ฟด้วยการถ่ายทอดสดไปยัง 6 ประเทศในเอเชีย เราต้องการเห็นแชมป์ที่หลากหลายเพื่อยกระดับศักดิ์ศรีของทัวร์ การถ่ายทอดการแข่งขันไปยังต่างประเทศของเรามีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงศักยภาพที่โดดเด่นของนักกอล์ฟของญี่ปุ่นและนักกอล์ฟต่างชาติที่ร่วมแข่งขันในเจแอลพีจีเอทัวร์ เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จ ก็จะได้รับการสนับสนุนและดึงดูดความสนใจจากแฟนกอล์ฟบ้านเกิดตัวเอง รวมถึงแฟนกอล์ฟชาวญี่ปุ่นที่รักในเกมกีฬากอล์ฟ”
“ภายใต้แผนการนี้ ถือเป็นเรื่องน่าทึ่งมาก หากวงการกอล์ฟทั่วเอเชียผสานรวมเป็นหนึ่ง สร้างเวทีการแข่งขันและพัฒนากีฬากอล์ฟอาชีพหญิงในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง" ประธานเจแอลพีจีเอทัวร์ กล่าวทิ้งท้าย