คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ขออนุญาตห้อยโหนกระแสเล็กๆ น้อยๆ ช่างน่ายินดีเสียเหลือเกิน หลัง กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันมือ 4 ของโลก คว้าแชมป์ บีดับเบิลยูเอฟ (BWF) เวิลด์ แชมเปียนชิป 2023 ด้วยการเอาชนะ โกได นาราโอกะ คู่ชิงชนะเลิศระดับเยาวชน ปี 2018 อย่างดุเดือด 2-1 เกม กลายเป็นแชมป์โลกชายเดี่ยวของไทยคนแรก และประเภทที่ 3 ต่อจาก รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยว ปี 2013 และ เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสม ปี 2021
ประเด็นสัปดาห์นี้ขอเกริ่นด้วยประเภทหญิงเดี่ยว สำหรับใครที่ติดตามข่าวคราวหรือผลการแข่งขันแบดมินตันเป็นประจำ จะได้ยินว่า ศุภนิดา เกตุทอง แชมป์ ยูเอส โอเพน 2023 ถูกตั้งสมญา “เมย์ซ้าย” ขออภัยที่ผมไม่ทราบที่มาที่ไป แต่สันนิษฐานว่าคงเป็นเพราะชื่อเล่นซ้ำกับ เมย์ รัชนก และถนัดมือซ้าย คล้ายๆ กับศึกฟีบา เวิลด์ คัพ 2023 ซึ่งหลายๆ ท่านน่าจะเห็นคลิป “โคบีซ้าย” มาบ้าง หลังเริ่มการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มมาแล้ว 2 เกม
รอนเด ฮอลลิส-เจฟเฟอร์สัน ตำแหน่ง เพาเวอร์ / สมอลล์ ฟอร์เวิร์ด ไม่เพียงแค่สวมเสื้อหมายเลข 24 รับใช้ ทีมชาติจอร์แดน, หน้าตาขณะโกนศีรษะ, สวมอาร์มแบนด์ (ปลอกแขน) และเกิดที่รัฐเพนซิลวาเนียเหมือน โคบี ไบรอันท์ การ์ดระดับตำนาน แอลเอ เลเกอร์ส และลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) แต่ยังรวมถึงสไตล์การเล่น และการเคลื่อนไหวตลอด 2 เกม พบ กรีซ กับ นิวซีแลนด์ แตกต่างกันแค่มือข้างถนัด
ฮอลลิส-เจฟเฟอร์สัน วัย 28 ปี เป็นตัวโรงเรียนมัธยมปลายของ เชสเตอร์ ไฮ สคูล สร้างสถิติรีบาวน์ดมากสุดของของสถาบัน 780 ครั้ง และพาทีมโรงเรียนทำสถิติไร้พ่ายครั้งแรกของประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์ของรัฐ 2 สมัย ก่อนชวดสมัยที่ 3 เมื่อปี 2013 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของเขาระดับมัธยมปลาย โดยพ่ายแก่ โลเวอร์ เมอเรียน ไฮ สคูล โรงเรียนซึ่ง โคบี เป็นศิษย์เก่า
นับตั้งแต่ถูก ปอร์ตแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส ดราฟต์อันดับ 23 ปี 2015 จากมหาวิทยาลัยอริโซนา รุ่นเดียวกับ แอรอน กอร์ดอน ฟอร์เวิร์ด เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ฮอลลิสส์-เจฟเฟอร์สัน ถูกเทรดไป บรูกลิน เน็ตส์ 4 ซีซัน (2015-2019) ก่อนย้ายไป โตรอนโต แร็ปเตอร์ส (2019-2020) และกลับ เทรล เบลเซอร์ส ปี 2021 แล้วหายหน้าหายตาจาก NBA
กลับมาคราวนี้ ฮอลลิส-เจฟเฟอร์สัน ได้รับสัญชาติ จอร์แดน ปี 2023 เพื่อลงเล่นศึกชิงบาสเกตบอลแชมป์โลก ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ แม้ว่า ทีมชาติจอร์แดน แพ้ 2 เกมรวด แต่เขาเป็นความหวังทำสกอร์ของทีม โดยส่อง 24 แต้ม 9 รีบาวน์ด แพ้ กรีซ 71-92 และ 39 แต้ม รวมช็อต โฟร์ พอยน์ต เพลย์ (ยิง 3 คะแนน + 1 ลูกโทษ) วินาทีสุดท้าย จนต้องตัดสินกันช่วงต่อเวลา แล้วพ่าย นิวซีแลนด์ 85-97 ท่ามกลางเสียงตะโกนของแฟนๆ “โคบี” กึกก้องสนาม มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีนา
ฮอลลิส-เจฟเฟอร์สัน รั้งอันดับ 2 ผู้เล่นทำสกอร์มากสุดของทัวร์นาเมนต์ 31.5 แต้ม รองจาก ลูกา ดอนซิช ซูเปอร์สตาร์ ดัลลัส มาเวอริกส์ และ ทีมชาติสโลวีเนีย 35.5 แต้ม ยิงฟิลด์โกลเข้าเป้า 54.3 เปอร์เซ็นต์ ระยะ 3 คะแนนแค่ 28.6 เปอร์เซ็นต์
จะเห็นว่าการยิงวงนอก เป็นสิ่งที่คุมกำเนิด ฮอลลิส-เจฟเฟอร์สัน ตลอด 6 ซีซัน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเป็นตัวป้องกันฝีมือเยี่ยม ทว่า เน็ตส์ ต้องการปลุกปั้นเขาเป็นสไตล์ “3&D (ตัวป้องกันแม่นระยะ 3 คะแนน)” แต่ไม่ประสบคงวามสำเร็จ จึงต้องหอบข้าวของมาเล่นต่างแดน ที่ตุรเคีย, ฝรั่งเศส และฤดูกาลที่แล้ว ที่ฟิลิปปินส์ เขาลดน้ำหนักลงตลอดการเล่นทวีปยุโรปและย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนรูปร่างหน้าตาคล้าย โคบี
จอร์แดน สถิติชนะ 0 แพ้ 2 หมดหวังเข้ารอบน็อกเอาท์ ฟีบา เวิลด์ คัพ แน่นอนแล้ว ไม่ว่าผลการแข่งขันเกมสุดท้าย กับ สหรัฐอเมริกา (ชนะ 2 แพ้ 0) จะจบอย่างไร แต่อย่างน้อย ฮอลลิส-เจฟเฟอร์สัน กลายเป็นผู้เล่นที่ถูกจับตามองในทัวร์นาเมนต์นี้ เพราะเขาช่างเหมือน โคบี เหลือเกิน