ศึกรักบี้กาชาดไทยสุดมันส์ ทีมรักบี้รวมทหาร 3 เหล่าทัพ ดีกรีแชมป์เก่า สู้สุดใจในช่วงท้ายเกมรวมพลังตั้งแนวรับยื้อจนสามารถเอาชนะไปอย่างหวุดหวิด 13-8 จุด ป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย ส่วนบรรยากาศนั้นมีประชาชนเข้ามาร่วมสนุกและชมเกมรักบี้อย่างหนาตาที่สนามศูนย์กีฬาเยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น)
สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย จัดการแข่งขันรักบี้ประเพณีกาชาดไทย ประเภท 15 คน เพื่อการกุศล ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้สภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธี ซึ่งมี พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน เลขาธิการสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานจัดการแข่งขัน พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมร่วมด้วย ที่สนามศูนย์กีฬาเยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2566
ในส่วนของการแข่งขันนั้นเป็นการชิงชัยระหว่างทีมรวมทหาร 3 เหล่าทัพ พบกับ ทีมตำรวจรวมพลเรือน ซึ่งทั้งสองขนเอานักรักบี้ระกับทีมชาติ และ อดีตทีมชาติ ร่วมทีมอย่างคับคั่ง นับว่าเป็นแมตช์การแข่งขันรักบี้ที่มีดาวดังระดับประเทศรวมตัวกันมากที่สุด ขณะที่ผลการแข่งขันนั้นเป็นทางทีมรวมทหาร ที่เป็นแชมป์เก่าครั้งที่แล้ว ที่คุมเกมได้ดีจนถึงช่วงท้ายเกมยังนำอยู่ 13-8 จุด ทำให้ทีม ตำรวจรวมพลเรือน เปิดหน้าแลกหวังที่จะวางทรัยให้ได้เพื่อหวังผลชนะ แต่ทีมรวมทหารใช้วิธีตั้งเกมรับที่เหนียวแน่นยื้อไว้จนหมดเวลา ทำให้เป็น ทีมรวมทหาร สามารถเอาชนะทีมตำรวจรวมพลเรือน 13-8 จุด โดยได้ 1 ทรัยจาก ศรุต จันดา 1 เตะเปลี่ยนจาก ประดับยศ มหายศ และ 2 เตะโทษจาก ประดับยศ มหายศ กับ วรงค์กรณ์ คำเกิด
สำหรับบรรยากาศภายนอกสนามของงานรักบี้ประเพณีกาชาดไทยนั้นคับคั่งได้ด้วยกิจกรรมมากมายที่จัดโดยสภากาชาดไทยมีทั้ง รถบรรเทาทุกข์ ตรวจสุขภาพช่องปาก และ ตรวจความดันตา และ ตรวจสุขภาพเบื้องต้น ให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีบูทกิจกรรมเล่นเกมเสี่ยงโชครับของรางวัล และบูทอาหารเครื่องดื่มที่จัดจำหน่ายโดยเหล่าผู้สนับสนุนต่างๆ ส่วนรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำเข้าสู่สภากาชาติไทย อละโดยเฉพาะในปีนี้สภากาชาดไทยมีโครงการกองทุนภัยพิบัติ เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ของประชาชน โดยได้ตั้งเป้าไว้ 500 ล้านบาท และรายได้จากงานรักบี้กาชาดที่เหลือจากหักค่าใช้จ่ายก็จะเข้าสู่กองทุนนี้