คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ว่ากันถึงวงการมวยโลก แฟนๆ คงตามลุ้นให้มีมวยโลกระดับ “บิ๊กไฟต์” หรือมวยพันล้านหมื่นล้านให้เกิดขึ้นหลายคู่ แต่การเจรจาจัดศึกมวยระดับยักษ์อย่างนี้ ก็มักติดปัญหาโน่นนี่ เงื่อนไขโน่นนี่นั่น จนไม่ได้เจอกันซักที อย่างรุ่นเฮฟวี่เวท ศึก “รวบแชมป์” ระหว่าง “ยิปซี คิง” ไทสัน ฟิวรี่ กับ “ยอดมวยยูเครน” โอเล็กซานเดอร์ อูซิก ซึ่งควรจะทำเงินมหาศาล ก็ยังติดขัดเจรจาไม่ลงตัวกันซักที ซึ่งงานนี้ไทสัน ฟิวรี่ ตกเป็นจำเลยสังคมว่าสร้างเงื่อนไขเยอะแยะจนตกลงกันไม่ได้ ส่วนศึกระหว่าง “ไอ้หัวขิง” ซาอูล “กาเนโล” อัลวาเรซ ยอดมวยเบอร์ 1 ของโลกแบบปอนด์ต่อปอนด์ตอนนี้ ที่หวัง “ล้างตา” กับดมิทรี บิวอล หลังจากอัลวาเรซข้ามรุ่นไปรุ่นไลท์ เฮฟวี่เวท แล้วโดนบิวอล “ล่อเป้า” พ่ายยับลงมา การเจรจาก็ยังติดขัดที่พิกัดน้ำหนัก เพราะอัลวาเรซบอกอยากแก้มือในรุ่นไลท์ เฮฟวี่เวท ส่วนบิวอลบอกรุ่นไลท์ เฮฟวี่เวทตัวเองถูกครหาว่า “ได้ใหญ่” อยากลงมาเจอกันในรุ่นซูเปอร์มิดเดิ้ลเวท ศึกยักษ์เหล่านี้เลยยังไม่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นซักที
แต่ปลายเดือนนี้ เวลาบ้านเราสายๆ วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม จะมีมวยโลกระดับ “คู่ยักษ์” ระหว่างนักชกอเมริกันด้วยกัน เทอร์เรนซ์ ครอว์ฟอร์ด กับ เออร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ เพื่อเดิมพัน “รวบแชมป์” ในรุ่นเวลเตอร์เวท โดยเทอร์เรนซ์ ครอว์ฟอร์ด วัย 35 นั้นสถิติชก 39 ชนะรวด น็อก 30 เป็นแชมป์ขององค์กรมวยโลก WBO อยู่ตั้งแต่ปี 2018 ก่อนหน้านี้ก็เป็นแชมป์โลกในรุ่นไลท์เวท และซูเปอร์ไลท์เวทมาแล้ว ผ่านมวยดีๆ มาเยอะทั้ง เจฟฟ์ ฮอร์น อาเมียร์ ข่าน เคลล์ บรู๊ก ชอว์น พอร์เตอร์ เรียกว่าเป็น “ของจริง” รายหนึ่ง ส่วนเออร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ ก็ไม่ธรรมดา อายุ 33 ไล่เลี่ยกัน ชกมา 28 ไฟต์ชนะรวดเช่นกัน น็อก 22 เป็นเจ้าของเข็มขัดในรุ่นเวลเตอร์เวทนี้ของสามสถาบัน ทั้งสภามวยโลก WBC สมาคมมวยโลก WBA และสหพันธ์มวยนานาชาติ IBF ชนะเคลล์ บรู๊ก และชอว์น พอร์เตอร์มาเหมือนกัน และยังผ่านมวยดีๆ อย่าง ไมค์กี้ การ์เซีย แดนนี่ การ์เซีย ล่าสุดชนะยอร์เดนิส อูกาส มาเมื่อปีที่แล้ว เรียกว่าเป็นมวยตัวท็อปของโลกเหมือนกันในรุ่นนี้
แฟนๆ เรียกร้องให้มวยคู่นี้เจอกันมาหลายปีแล้ว การเจรจาศึกมวยไฟต์นี้ ก็เป็นไปตามประสามวยโลกคู่ยักษ์ ที่เจอปัญหาสารพัด จนทำท่าจะตกลงกันไม่ได้ คือจะไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว สุดท้ายกลายเป็นนักชกทั้งคู่ต่อสายหากันโดยตรง โดยทั้งคู่คุยกันว่า “นี่นะพวก เราต้องเจอกัน แฟนๆ อยากดู เราก็อยากพิสูจน์ตัวเองกับนักชกที่ดีที่สุด ดังนั้น เราต้องเจอกัน” จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ไปบอกทีมสนับสนุนของตัวเอง ให้หาทางตกลงกันให้ได้ คือจะชกกันแล้ว เลิกไอ้เงื่อนไขบ้าๆ บอๆ ไปซะ จนสุดท้ายก็ตกลงกันได้และพร้อมเจอกันในที่สุดที่สังเวียนที-โมบายล์ อารีน่า ในลาส เวกัส ตรงกับสายๆ วันอาทิตย์ที่ 30 ตามเวลาบ้านเราอย่างที่บอก
ต้องบอกว่านักชกทั้งคู่ถือเป็นนักชกตัวอย่างที่แฟนๆ ต้องชื่นชมเลย จากปกติที่บรรดาโปรโมเตอร์และผู้จัดการนักมวยทั้งหลายเข้ามา “เล่นเกม” หวังผลประโยชน์สูงสุดของตัวเอง โดยไม่ได้สนใจแฟนมวยเลย ทำให้มวยคู่ดีๆ หลายคู่ที่แคล้วคลาดกันไป หรือเจอกันก็เจอกันตอนไม่ใช่ช่วง “พีค” ของทั้งคู่แล้ว จนไม่สนุกดุเดือดอย่างที่แฟนๆ หวัง ไม่ว่าจะเป็นศึก “ฟลอยด์ - ปาเกียว” ที่ทีมของฟลอยด์ดึงเกมจนปาเกียวผ่านช่วงท็อปฟอร์มไปแล้วถึงมาเจอกันตอนที่ปาเกียวไล่ไม่ไหวแล้วก่อนที่ฟลอยด์จะเอาชนะไปอย่างจืดชืด หรือ “อัลวาเรซ - สามจี” ที่อัลวาเรซก็ดึงจนโกลอฟกิ้นเลยจุดพีคไปแล้ว ขนาดนั้นไฟต์แรกยังเสมอแบบค้านสายตา แม้จะมี “ภาค 2” “ภาค 3” แต่โกลอฟกิ้นก็ร่วงโรยไปเรื่อยๆ จนพ่ายทั้งสองไฟต์ แต่ครอว์ฟอร์ด-สเปนซ์ กลับเลือกที่จะกำจัดอุปสรรคต่างๆ ไปจนหมด แล้วมาเจอกันในช่วงที่ตัวเองยังไม่เลยจากจุด “พีค” ไป ตอนนี้เสียดายอย่างเดียวที่ยังไม่รู้ว่าจะมีทีวีช่องไหนถ่ายทอดสดคู่นี้ให้เราดูหรือเปล่า แฟนมวยชาวไทยรอลุ้นกันไป