บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ฉลองครบรอบ 10 ปี ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge โดยในปีนี้ บริดจสโตนสนับสนุนทีมผู้เข้าแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ และเนื่องในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีแห่งการฉลองครบรอบ 60 ปี ในวงการมอเตอร์สปอร์ต บริดจสโตนจึงแสดงความมุ่งมั่นในระยะยาวเพื่อสนับสนุนกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกที่มุ่งสู่ความยั่งยืน ซึ่งสะท้อนให้เห็นการดำเนินการดังกล่าวผ่านการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge ประจำปี ค.ศ. 2023 ที่เมืองแอดิเลด สำหรับในปีนี้มีผู้เข้าแข่งขันถึง 35 ทีมที่ใช้ยางบริดจสโตน ซึ่งผู้เข้าแข่งขัน ได้ออกตัวจากจุดสตาร์ทที่เมืองดาร์วินเพื่อเข้าสู่เส้นชัยที่เมืองแอดิเลดของประเทศออสเตรเลีย ด้วยระยะทางรวม 3,000 กิโลเมตร
สำหรับในปีนี้บริดจสโตนใช้เทคโนโลยี ENLITEN เป็นเทคโนโลยีหลักสำหรับการออกแบบยางเพื่อให้เป็น “ยางพรีเมียมใหม่” ที่พร้อมใช้งานในการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge นับเป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยี ENLITEN ได้ถูกนำมาใช้ในแพลตฟอร์มการแข่งขัน ซึ่งสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับช่วงเวลาประวัติศาสตร์ในวงการมอเตอร์สปอร์ตของบริดจสโตน อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานความเป็นมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับความยั่งยืน
การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริดจสโตนใน “ด้าน Energy (พลังงาน) ด้วยการตระหนักถึงสังคมแห่งการเดินทาง ตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” และ “ด้าน Emotion (ความรู้สึก) ด้วยการสร้างความตื่นเต้น และความสุขในสังคมแห่งการเดินทาง” ใน “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” *
“บริดจสโตนยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืนผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับยางใหม่ และยังสะท้อนผ่านคุณค่าใน Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” โทโมยูคิ ทาคากิ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การตลาดระดับโลก บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น กล่าว
“เรารู้สึกยินดีที่ได้เห็นการกลับมาอีกครั้งของการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge และยังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้สนับสนุนผู้เข้าแข่งขันในปีนี้ พร้อมกับส่งต่อความตื่นเต้นเร้าใจผ่านโซลูชั่นด้านการเดินทางอย่างยั่งยืน และการพัฒนานวัตกรรมผ่านรายการการแข่งขันดังกล่าว”
Bridgestone World Solar Challenge นับเป็นรายการแข่งขันรถพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของโลก และยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของบริดจสโตนกับบทบาทสำคัญในการสนับสนุนวัฒนธรรมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก ในฐานะที่บริดจสโตนเป็นแบรนด์พรีเมียมระดับโลกที่มุ่งสู่ความยั่งยืน การกลับมาอีกครั้งของการสนับสนุนการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challengeในปี ค.ศ.2023ถือเป็นอีเวนท์แรก นับตั้งแต่ที่บริดจสโตนได้ประกาศขยายขอบเขตการเป็นผู้สนับสนุนหลักในปี ค.ศ. 2019 บริดจสโตนเดินหน้าสนับสนุนการแข่งขันรายการดังกล่าวในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มจำนวนยางที่สนับสนุนในการแข่งขันจาก 1 ทีม ในปี ค.ศ. 2013 เป็นจำนวนถึง 35 ทีมที่ใช้ยางบริดจสโตน จากทั้งหมด 45 ทีม ในปี ค.ศ. 2023
ด้วยการยึดมั่นในเรื่องความยั่งยืนเป็นแกนหลักในการบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจ บริดจสโตนมุ่งมั่นที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ “สู่ปี ค.ศ. 2050 บริดจสโตนยังคงส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้าในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน” โดยการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการหลอมรวมกิจกรรมกีฬามอเตอร์สปอร์ตและโซลูชั่นอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคตเข้าด้วยกัน กิจกรรมดังกล่าวเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ช่วยบริดจสโตนในการวิจัยและพัฒนาในโลกปัจจุบันบนสภาวะต่างๆ ที่ท้าทายเพื่อทดลองใช้ยางที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยี ENLITEN
โทโมยูคิ ทาคากิ กล่าวเสริมว่า “การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge ได้สร้างแพลตฟอร์มในอุดมคติให้กับบริดจสโตนในการพัฒนาและจัดแสดงยางที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยี ENLITEN เพื่อใช้สำหรับยานพาหนะที่ทันสมัย รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาโซลูชั่นเกี่ยวกับการเดินทางทั่วโลก”
“ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์มุ่งเป้าไปที่การใช้พลังงานไฟฟ้า การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge เป็นเวทีให้เราได้แสดงถึงเทคโนโลยีและศักยภาพในการพัฒนายางให้โลกได้รับรู้ ซึ่งการแข่งขันรายการดังกล่าวได้เชื่อมโยงกับเรื่องราวของบริดจสโตน รวมถึงอนาคตของเราในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน”
การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge เป็นเพียงหนึ่งในความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกตามแผนการสนับสนุนกิจกรรมกีฬามอเตอร์สปอร์ตเพื่อความยั่งยืนระดับโลกของบริดจสโตน รวมถึงการเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรม Bridgestone FIA ecoRally Cup ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติสำหรับรถยนต์ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า นับเป็นหนึ่งในแผนการสนับสนุนกิจกรรมกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมระดับสามดาวจาก Federation Internationale de l'Automobile (FIA) ซึ่งเป็นองค์กรสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติที่ไม่แสวงหาผลกำไรโดยจะควบคุมกีฬาและการแข่งขันกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต
การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1987 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารถพลังงานแสงอาทิตย์ สนับสนุนวิศวกรรุ่นใหม่ และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้แหล่งพลังงานใหม่อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ ผู้เข้าร่วมจะมีส่วนในการออกแบบ สร้างสรรค์ และพัฒนายานพาหนะที่มีประสิทธิภาพระดับโลก สำหรับการแข่งขันในปี ค.ศ. 2023 จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 ในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2023
ภาพรวมของการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge ประจำปี ค.ศ. 2023
1.วันที่จัดการแข่งขัน: ระหว่างวันที่ 22-29 ตุลาคม ค.ศ. 2023
2.ประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน: ออสเตรเลีย (จากเมืองดาร์วินสู่เมืองแอดิเลด)
3.เจ้าภาพจัดการแข่งขัน: องค์กร South Australian Motor Sport Board (SAMSB)
4.รายละเอียดการแข่งขัน
(1) คลาส Challenger
ความท้าทายสู่การเป็นที่หนึ่งในยานพาหนะที่ออกแบบเพื่อความเร็ว ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อน 3 หรือ 4 ล้อ และนักขับ 1 คน
การสนับสนุนของบริดจสโตน: 25 ทีม (จากทั้งหมด 32 ทีม)
(2) คลาส Cruiser
ความท้าทายที่มุ่งทดสอบประสิทธิภาพด้านพลังงานและการนำไปใช้งานของยานพาหนะ ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ นักขับ 1 คน และมีผู้โดยสารมากกว่า 1 คน
การสนับสนุนของบริดจสโตน: 10 ทีม (จากทั้งหมด 11 ทีม)
(3) คลาส Adventure
ความท้าทายที่เปิดโอกาสให้ยานพาหนะที่ไม่ตรงตามเกณฑ์เข้าร่วมแข่งขันในคลาส Challenger หรือ Cruiser เช่น ยานพาหนะที่อยู่ในข้อกำหนดของการแข่งขันรอบก่อนหน้า ซึ่งต้องใช้ระบบขับเคลื่อนมากกว่า 3 ล้อ
*กลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนได้กำหนด “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)" เพื่อช่วยให้บรรลุวิสัยทัศน์: "สู่ปี ค.ศ. 2050 บริดจสโตนยังคงส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้า ในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน" ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการบริหารควบคู่ไปกับการสร้างความไว้วางใจและน่าเชื่อถือให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)" ประกอบด้วยคุณค่า 8 ด้านของบริดจสโตนที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร "E" (ด้าน Energy (พลังงาน), ด้าน Ecology (สิ่งแวดล้อม), ด้าน Efficiency (ประสิทธิภาพ), ด้าน Extension (การเติบโต), ด้าน Economy (เศรษฐกิจ), ด้าน Emotion (ความรู้สึก), ด้าน Ease (ความสะดวกสบาย) และด้าน Empowerment (พลังทางสังคม) ซึ่งกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผ่านเจตจำนง และกระบวนการทำงานร่วมกับพนักงาน สังคม พันธมิตร และลูกค้า เพื่อสังคมที่ยั่งยืน