xs
xsm
sm
md
lg

"เหยิน โจ๊กเกอร์" จากเด็กหน้าจืดขี้แยสู่นักสู้ข้างถนน ขอน็อค "โคตะ" คาเวทีราชดำเนิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เหยิน โจ๊กเกอร์ VS โคตะ วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ที่เวทีมวยราชดำเนิน
เปิดตัวกันไปแล้วที่ โคตะ มิอุระ นักมวยหนุ่มดาวรุ่งหล่อ เท่ เสน่ห์แรงจากประเทศญี่ปุ่นกำลังจะกลับคืนสู่เวทีมวยราชดำเนินอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ในกติกาคิกบ็อกซิ่งแบบพิเศษในรายการ RWS : Legend of Rajadamnern

สำหรับคู่ชกในไฟต์นี้ก็คือ โจ๊กเกอร์ ไฟต์คลับ นักมวยสุดห้าวบ้าระห่ำจากสังเวียนสตรีทไฟต์หรือพูดง่ายๆก็คือเขาเป็น “นักสู้ข้างถนน” จากเวที Fight Club Thailand ที่กำลังโด่งดังสุดขีด เท่ากับว่านี่คือการเจอกันของสองนักมวยจากสองชาติที่มีเส้นทางชีวิตแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว

โคตะ มิอุระ หลายคนอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเขาเป็นใครมาจากไหน มีดีกรีอย่างไร และที่ผ่านมาก็เคยขึ้นสังเวียนพบ บัวขาว บัญชาเมฆ มาแล้ว อย่างไรก็ตามหลายคนต่างจับจ้องไปที่ “โจ๊กเกอร์ ไฟต์คลับ” ซึ่งถือเป็นนักชกสตรีทที่ไม่เคยขึ้นสังเวียนอาชีพมาก่อนเลยในชีวิต

โจ๊กเกอร์ ไฟต์คลับ กับโอกาสเดียวที่ต้องชนะ โคตะ
สมัยก่อน โจ๊กเกอร์ ถือเป็นแค่ไอ้หน้าจืดคนหนึ่ง เป็นเด็กขี้แย เก็บกด เข้ากับใครไม่ค่อยได้ มักจะโดนเพื่อนๆรังแกอยู่เสมอ ส่วนฐานะทางบ้านก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ครอบครัวทำงานรับเหมาก่อสร้าง ทำให้เขาต้องเรียนหนังสือควบคู่ไปกับการทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัว

จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเมื่อเขาได้มีโอกาสเข้าสังกัดของ Fight Club Thailand โดยใช้ชื่อในการชกครั้งแรกว่าไอ้เหยิน หมัดหนัก แต่พอไฟต์ต่อมาก็เปลี่ยนใช้ชื่อว่าเหยิน โจ๊กเกอร์ ก่อนจะเป็นที่รู้จักในวงการว่า “โจ๊กเกอร์ ไฟต์คลับ”

โดยเฉพาะไฟต์ที่เอาชนะนักมวยรุ่นพี่อย่าง ต๊ะ ยมทูต ที่ยกระดับเขาให้เป็นนักมวยเวทีสตรีทไฟต์ที่เนื้อหอมมาก ถือเป็นเบอร์ 1 ของวงการสตรีทไฟต์ของประเทศไทย ปัจจุบันมีค่าตัวในการชกครั้งละห้าหมื่นบาท กระนั้นก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่โจ๊กเกอร์ใฝ่ฝันอยากจะทำให้สำเร็จมาตลอด นั่นก็คือการขึ้นชกในสังเวียนเวทีมวยมาตรฐาน เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่านักมวยข้างถนนอย่างเขาก็มีศักยภาพมากพอที่จะสร้างชื่อในเวทีระดับโลกเหมือนกัน

นักชกสุดหล่อจากญี่ปุ่นคู่แข่งของ โจ๊กเกอร์
ดังนั้นจะบอกว่าไฟต์นี้คือการเติมเต็มความฝันของโจ๊กเกอร์ก็คงไม่ผิด และไม่ต้องสงสัยเลยล่ะว่าเขาจะทุ่มสุดฝีมือ สู้เต็มที่ไม่มียอมง่ายๆแน่นอน เขาคือตัวแทนของโลกสตรีทไฟต์ที่พร้อมจะประกาศศักดาให้โลกรู้ ในส่วนของครูมวยผู้ดูแลก็คือ ครูเก้า ราชานนท์ ซึ่งพัฒนาจนโจ๊กเกอร์กลายเป็นมวยพันธุ์ดุ เดินหน้า น็อกได้เป็นน็อก

แม้จะมีโปรแกรมชกถี่แบบเดือนเว้นเดือน เจอกับคู่ชกสุดหินมากมาย แต่คงจะไม่มีไฟต์ไหนในการเป็นนักสู้ข้างถนนที่เร้าใจเท่ากับการเจอกับ โคตะ มิอุระอีกแล้ว ที่สำคัญโจ๊กเกอร์รู้สึกเป็นเกียรติสูงสุดที่จะได้ขึ้นชกบนสังเวียนประวัติศาสตร์อย่างเวทีราชดำเนิน และยังเป็นความภาคภูมิใจสำหรับนักสู้สตรีท ไฟเตอร์ทุกคนอีกด้วย

ส่วนโคตะเอง การที่ต้องเจอกับโจ๊กเกอร์ ไฟต์คลับก็ถือเป็นโจทย์ที่ยากไม่ต่างกัน อีกฝ่ายคือนักสู้ที่ทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกายสู้ข้างถนนมาโดยตลอด พร้อมที่จะโชว์ลีลาการชกที่บ้าบิ่น ดุเดือด คาดเดาได้ยาก และจัดเต็มทุกดอก การเจอกันระหว่าง “สตาร์” กับ “สตรีท” ไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะอยู่ใครจะไป

วันนี้เราจะพาไปเปิดใจกับบทสัมภาษณ์ของ "โจ๊กเกอร์" หนึ่งในนักชกจาก Fight Club Thailand ที่มาแรงที่สุดคนในพ.ศ.นี้ กับโอกาสครั้งแรกในชีวิตที่จะได้วาดลวดลายบนสังเวียนผ้าใบ ณ เวทีมวยราชดำเนิน

วัยเด็กของ โจ๊กเกอร์ ก่อนเข้าสู่เส้นทางต่อสู้
- ชีวิตวัยเด็กเป็นแค่ไอ้หน้าจืด / ครอบครัวทำงานก่อสร้าง

เป็นคนนิ่มจืดๆ ไม่ค่อยมีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตเท่าไหร่ เรียนโรงเรียนวัดอะไรแบบนี้ ไม่ค่อยตอบโต้ เราก็เป็นฝ่ายที่ถูกรังแกโดนใช้งาน เมื่อก่อนเราก็เชื่อมั่นใจ ในแรงของตัวเองเพราะเคยทำงานก่อสร้าง เราเชื่อมั่นในแรงของเรา แต่พอไปชกมวยจริงๆ ก็รู้สึกว่ามันต่างกันเยอะ ครอบครัวผมเป็นผู้รับเหมา เสาร์-อาทิตย์ เราไม่ได้หยุดตามเด็กคนอื่นเขา เราก็ต้องเดินทางไปกับปู่ยาตายาย ไปช่วยทำงานรับเหมาก่อสร้าง ไปแบกอิฐผสมปูน

- เริ่มต้นเข้าสู่ Fight Club Thailand

เราติดตาม Fight Club Thailand มาหลายปีแล้ว แต่ก็มีช่วงโควิด-19 ที่รายการนี้ได้หายไปเลย แต่พอดีเราไปทำงานรับเหมาที่พัทยาแล้วรายการออกมาประกาศรับสมัครอีกครั้ง เราก็เลยลองสมัครดูแล้วก็ถูกเรียกตัวไป หลังจากนั้นก็เลยชกในรายการนี้มาตลอด

จากเด็กหน้าจืดสู่ยอดไฟต์เตอร์ข้างถนน
- ที่มาของชื่อ "ไอ้เหยิน โจ๊กเกอร์"

ชื่อแรก ไอ้เหยิน หมัดหนัก เริ่มต้นตั้งแต่ไฟต์แรกที่ไปชกที่คลองเตย เราเป็นคนตั้งเองเพราะเชื่อมั่นในหมัดของตัวเองเมื่อก่อนนี้ เราก็โชว์ฝีมือ และลวดลายกวนๆ และทีนี้เราก็มีรอยยิ้มที่เหมือนกับโจ๊กเกอร์ ทางพี่ๆ ของไฟต์คลับ ไทยแลนด์ รวมถึงแฟนคลับก็อยากให้เปลี่ยนชื่อ เลยเปลี่ยนมาใช้โจ๊กเกอร์ เมื่อก่อนผมไม่ชอบนะครับเพราะดูจะไม่เข้ากับเรา เราไม่ได้คิดว่าเราเหมือนด้วย แต่ไปๆมาๆ เออก็คิดว่ามันใช่ คิดว่ามันก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีชีวิตคล้ายกับเรา เรามีลูกบ้า ลูกชน และเวลาโดนต่อยเราก็ยิ้ม มันก็เลยคล้ายกับโจ๊กเกอร์

ปักหลักซ้อมขึ้นเวทีราชดำเนิน 1 กรกฎาคมนี้
- พูดถึง "โคตะ มิอุระ"

ผมเพิ่งรู้จักโคตะตอนที่เขาชกกับบัวขาว บัญชาเมฆ เราก็ตามดูคลิปเก่าๆของเขา และศึกษาเขามาตลอดว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง กติกาที่จะชกกับโคตะจะเป็นกติกาคิกบ็อกซิ่งแบบพิเศษของรายการ RWS ที่ราชดำเนิน ชก 3 ยก ยกละ 3 นาที พัก 2 นาที เหมือนกับมวยอาชีพทั่วไปเลย ต้องน็อกให้ได้อย่างเดียว ถ้าไม่น็อกก็จะเสมอ ไฟต์นี้เขาไม่ยอมลดน้ำหนักด้วย เยอะกว่าผม 10 กิโลกรัม สภาพร่างกายเขาดีกว่าผมเยอะ เหมือนเขาแค่เดินช้าๆ แล้วผมต้องวิ่งตามเขาให้ทัน แต่ทีเด็ดของผมคือการสู้สุดใจ ไม่ยอมแพ้ พร้อมเดินบี้ไม่ให้หายใจ เขาอาจจะซ้อมเบากว่าผมเพราะฝีมือดีกว่าผม แต่ผมซ้อมหนักมากเพื่อไฟต์นี้โดยเฉพาะ ซ้อมจนน้ำตาไหลเลย

 โคตะ ที่เดินทางมาไทยเจอกับ บัวขาว
- ขึ้นชกบนเวทีราชดำเนินครั้งแรกในชีวิต

รู้สึกเป็นเกียรติมากครับ สมัยก่อนตอนเด็กๆ เราก็มีความใฝ่ฝันนะครับว่าอยากจะขึ้นไปชกบนเวทีนี้สักครั้งนึงซึ่งถือเป็นเวทีระดับประเทศ ตอนนั้นมันดูจะไกลความฝันไปหน่อย แต่อยู่ดีๆ ก็ได้มาโผล่ ถือเป็นเกียรติของเด็กคนหนึ่งมากๆ รู้สึกภูมิใจมากๆ ก็ฝากถึงโคตะอยากจะให้เขาซ้อมเยอะๆ ไฟต์นี้ผมเป็นรองทุกอย่าง แต่ชีวิตผมไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ผมจะเดินบวกเดินชน จะทำให้เต็มที่ที่สุด ผมไม่กลัวคนอื่นจะมองในแง่ลบว่าผมไม่ใช่นักมวยอาชีพแต่ได้ขึ้นชกในเวทีประวัติศาสตร์ แฟนคลับที่ติดตามผมเขาก็เห็นในศักยภาพของผม เขาก็ยินดีที่จะได้เห็นเหยิน โจ๊กเกอร์ ขึ้นไปชกในเวทีใหญ่ และผมก็อยากทำให้คนที่ยังไม่รู้จักผมได้รู้จักผมมากขึ้นไปอีก

ผมก็อยากจะฝากถึงแฟนๆ ที่คอยให้กำลังใจนะครับ ผมทำเต็มที่อยู่แล้ว ไฟต์นี้ถือเป็นไฟต์แห่งชีวิตของผมเลย ถ้าผมชนะได้ ผมทำได้ ก็จะได้ไปต่อแบบก้าวกระโดด ชีวิตผมมันพร้อมที่จะก้าวกระโดดอยู่แล้ว ฝากพี่ๆ ตามให้กำลังใจนะครับ ผมจะตั้งใจซ้อมและทำให้ดีที่สุด ไฟต์นี้ทำดีแล้ว ไฟต์หน้าต้องดีกว่าเดิม


กำลังโหลดความคิดเห็น