อิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์ชาวเยอรมัน เหมาคนเดียวสองประตู "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เฉือนชนะ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 เถลิงแชมป์เอฟเอ คัพ อังกฤษ สมัยที่ 7 อยู่ในเส้นทางลุ้นทริปเปิลแชมป์ต่อไป
ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ ฤดูกาล 2022/23 วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่สนามเวมบลีย์ เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เป็นเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บีแมตช์ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี พบ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เปป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ แมนฯ ซิตี ส่ง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาร์โด ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน และแจ็ค กรีลิช คอยปั้นเกมรุก
ส่วน เอริก เทน ฮาก กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด เกมนี้วาง มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นหัวหอกตัวเป้า ขณะที่แดนกลางอัดแน่นมาถึง 4 คน ทั้ง บรูโน่ แฟร์นานเดส, คริสเตียน อิริกเซน, เฟร็ด และคาเซมิโร
เริ่มเกมมาเพียง 13 วินาที กลายเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ตั้งแต่เริ่มเขี่ย เควิน เดอ บรอยน์ โหม่งชงให้ อิลคาย กุนโดกัน วิ่งมาวอลเลย์ด้วยขวาเต็มข้อเข้าประตูไปอย่างสวยงามชนิดที่ ดาบิด เด เกอา ได้แค่มอง ถือเป็นประตูที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์รอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ
นาทีที่ 31 แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้จุดโทษจากจังหวะการทำแฮนด์บอลของ แจ็ค กรีลิช ที่ยื่นมือไปปัดลูกโหม่งของอารอน วาน บิสซากา ทีแรกผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร แต่เมื่อดู VAR แล้วโดนมือชัดเจน และเป็น บรูโน่ แฟร์นานเดส สังหารเข้าไปไม่พลาด "ปีศาจแดง" ตีเสมอ 1-1
ครึ่งหลังเล่นมาเพียง 6 นาที แมนฯ ซิตี ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะลูกฟรีคิก เควิน เดอ บรอยน์ เปิดมาให้ อิลคาย กุนโดกัน ยิงด้วยซ้ายบอลหนีมือ ดาบิด เด เกอา เข้าไป
ช่วงเวลาที่เหลือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามโหมบุกอย่างหนักเพื่อทวงประตูคืนให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายทำได้ไม่ดีพอ หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี เฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 7 มาครองได้สำเร็จ เป็นแชมป์ที่ 2 ในฤดูกาลนี้ อยู่ในเส้นทางลุ้นทริปเปิลแชมป์ต่อไป