พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย ประวิทย์ มนต์เสรีนุสรณ์ อุปนายกสมาคม ในฐานะประธานจัดการแข่งขันรักบี้ 7 คน ชิงชนะเลิศแห่งอาเซียน “SEA 7s” ให้การต้อนรับคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมที่เข้าร่วมแข่งขัน ที่โรงแรมเมเปิ้ล บางนา โดยมี ไทย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ลาว, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา และ ไต้หวัน
ทั้งนี้ พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ ได้เชิญตัวแทนทีมมารับประทานอาหาร พร้อมพูดคุยกันในเรื่องการพัฒนาวงการรักบี้อาเซียนไปพร้อมๆกัน โดยในที่ประชุม "บิ๊กต้น" ได้กล่าวว่า ศึกรักบี้ 7 คน ชิงชนะเลิศแห่งอาเซียน “SEA 7s” มีความสำคัญต่อพวกเราชาวอาเซียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีการบรรจุกีฬารักบี้ในศึกซีเกมส์ 2 สมัยติดต่อกัน เท่ากับว่า ไม่มีการแข่งขันรักบี้ 7 คนอย่างเป็นทางการในโซนอาเซียนนานถึง 4 ปี จึงทำให้เป็นเหตุผลสำคัญที่ไทยจำเป็นต้องจัดแข่งรักบี้รายการนี้ขึ้นร่วมกับ สิงคโปร์ ส่วน ไต้หวัน แม้จะเป็นประเทศนอกอาเซียน แต่ก็เดินมาเข้าร่วมแข่งกันกับเราถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่จะได้แลกเปลี่ยนกับทีมรักบี้จากนอกอาเซียน และที่สุดไปกว่านั้นคือพวกเรายินดีต้อนรับกัมพูชาเข้ามาเป็น 1 ในทีมรักบี้อาเซียน และทุกชาติก็พร้อมที่จะช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ทีมรักบี้เขมร
พ.ต.ท.กุลธน ยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของไทยนั้น มีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่อยากจะช่วยเหลือวงการรักบี้ของกัมพูชา ถ้าอะไรที่รักบี้ไทยช่วยเหลือได้ ไทยก็พร้อมเต็มที่ และอยากเห็นทีมกัมพูชาส่งทีมรักบี้มาแข่งขันซีเกมส์ในปี 2025 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
ขณะที่ ส้ม โสคา นายกสมาคมกีฬารักบี้ของกัมพูชา ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งเป็นนายกสมาคมรักบี้ ที่เดินทางมาพร้อมกับคณะนักกีฬา ได้เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและปลื้มใจเป็นอย่างมากที่ทุกชาติให้การต้อนรับทีมรักบี้กัมพูชาเป็นอย่างดี ซึ่งทางกัมพูชานั้นยังขาดทั้ง อุปกรณ์รักบี้ที่ได้มาตราฐาน ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และ ขาดเรื่องคำแนะนำเรื่องกฏกติกา ที่อัพเดทในทุกๆปี ซึ่งที่กล่าวมานี้ก็อยากให้ไทยช่วยเหลือ
ส่วนประเด็นที่ กัมพูชา ไม่บรรจุกีฬารักบี้ในซีเกมส์นั้น ส้ม โสคา ได้กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคม หากว่าตนได้รับตำแหน่งก่อนที่ซีเกมส์จะเริ่มขึ้นสัก 6-8 เดือน ตนก็จะทำทุกทางเพื่อผลักดันให้มีการแข่งขันรักบี้ในซีเกมส์ที่กัมพูชาให้ได้ เพราะถ้ามีรักบี้ในซีเกมส์ที่กัมพูชา ก็จะทำให้ทีมรักบี้กัมพูชาได้เรียนรู้จากประเทศอื่นๆ เพื่อนำมาพัฒนาปรับใช้กับทีมรักบี้กัมพูชา สุดท้ายนี้ในอีก 2 ปีข้างหน้ากัมพูชาจะส่งทีมรักบี้มาแข่งซีเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพอย่างแน่นอน