xs
xsm
sm
md
lg

“กินดิบ เสี่ยงตาย”...อันตรายจากไซยาไนด์ / พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”

“อันตรายของไซยาไนด์..” “เออ! อ่านดังๆเก่ง เฮียขอฟังด้วยคน” คุณชูสง่าบอกกับเจ้าเก่งขณะที่ทั้งวันเจ้าอ้วนง่วนอยู่กับข่าวที่กำลังดังอยู่นี้ โดยเชื่อว่าเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ลบสถิติโลกที่เกิดในเมืองไทย ถึงกับค้นเรื่องของสารพิษนี้จากวิกิพีเดียมาอ่านอย่างสนใจ “โอเคครับเฮีย...ไซยาไนด์ สามารถฆ่าคนได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง ทั้งการสูดก๊าซไซยาไนด์เข้าไป การกินหรือแม้แต่การสัมผัส หากกินเข้าไปในกระเพาะอาหารขณะท้องว่างจะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว” “โอ้โฮ! น่ากลัวมาก แล้วมันเข้าไปทำยังไงถึงตายเร็วอย่างนี้” คุณชูสง่าอุทานดูเหมือนจะอินไปด้วยกับลูกก๊วน

“กลไกการออกฤทธิ์” เจ้าเก่งอ่านต่อ “กลไกการเกิดพิษของสารนี้ เกิดจากการไปจับกับ Cellular Cytochrome Oxidase ทำให้เซลล์ใช้ออกซิเจนไม่ได้ คือไปยับยั้งการหายใจของเซลล์ ร่างกายจึงอยู่ในสภาพของ anoxia และเกิดภาวะ lactic acidosis สรุปจะมีอาการทางสมอง เช่น ชัก หมดสติ หายใจผิดปกติเนื่องจากมีการกดศูนย์ควบคุมการหายใจ...จบแล้วครับเฮีย” “อ้าวพี่หมอ แอบเข้ามาเมื่อไหร่เนี่ย ...สวัสดีครับ” “ก็เห็นกำลังสนใจเรื่องอะไรกันอยู่มาสักครู่แล้วครับ” “ก็เรื่อง แอนไซยาไนด์ ที่กำลังดังกันอยู่ เค้าว่ามันมีในมันสำปะหลัง แล้วอะไรอีกนะหมอ” “มีในมันสำปะหลัง หน่อไม้สด สบู่ดำ อัลมอนด์ชนิดขม มันฝรั่งดิบ แต่ถ้ากินมันสำปะหลังดิบ อาการจะเกิดขึ้นหลายชั่วโมงหลังรับประทาน เนื่องจากสารไซยาไนด์ที่อยู่ในรูปของสาร linamarin จะต้องถูกเอ็นไซม์ในลำไส้ย่อยเสียก่อน จึงจะปล่อยตัวไซยาไนด์ออกมา แต่ถ้ามีการปรุงพืชพวกนี้ให้สุกด้วยการผ่านความร้อน ไม่ว่าจะเป็นการต้ม อบ หรือทอด เผา อบแห้ง ก็สามารถบริโภคได้ตามปกติ

มันสำปะหลัง ไม่แนะนำให้กินดิบ เพราะมีไซยาไนด์อยู่ในราก (หัวมันสำปะหลังที่กินกันอยู่นั้น จริงๆคือส่วนรากของมัน) โดยสะสมอยู่ที่ผิวเปลือกของราก ดังนั้นการนำมาเตรียมปรุงอาหารให้เอาผิวเปลือกออกก่อน และควรนำมาต้ม 30-40 นาที แล้วทิ้งน้ำที่ต้ม ขณะที่แป้งมันสำปะหลังนั้นผ่านการผลิตโดยการโม่หลังจากกะเทาะเปลือกแล้ว ทำให้ปริมาณของไซยาไนด์ลดลงจนถึงระดับไม่เป็นอันตรายต่อการบริโภค

หน่อไม้ ให้หลีกเลี่ยงการกินหน่อไม้ดิบ หรือหน่อไม้ที่ปรุงยังไม่สุก ส่วนข้อแนะนำในการต้มหน่อไม้ ไม่ว่าจะเป็นหน่อไม้ดอง หรือหน่อไม้ปี๊บ โดยเฉพาะหน่อไม้สด ควรต้มให้เดือดอย่างน้อย 10 นาที จะลดไซยาไนด์ลงได้ 90.5%

“ปรุงสุก..ลดเสี่ยง” (จากอย.)

ไม่ควรรับประทานหน่อไม้ดิบ มันฝรั่งดิบ และมันสำปะหลังดิบ โดดเด็ดขาด เนื่องจากมีสารไซยาไนด์ หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมาก สารนี้จะไปจับกับเม็ดเลือดแดง ทำให้ขาดออกซิเจน หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงควรนำไปทำให้สุกด้วยความร้อน เช่น ต้ม ปิ้ง ย่าง อบ เป็นต้น ก่อนนำมารับประทาน
กำลังโหลดความคิดเห็น