xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็มบีด” ประวัติศาสตร์ MVP ซิกเซอร์ส / MVP

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

โจเอล เอ็มบีด เซ็นเตอร์ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส เพิ่งถูกประกาศชื่อคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ประจำฤดูกาลปกติ 2022-23 กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ เส้นทางอาชีพของเขาเกือบถูกลืม กระทั่งเอาชนะอาการบาดเจ็บ และอุปสรรคต่างๆ กลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งของลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA)

เอ็มบีด เกิดที่เมืองยาอุนเด ประเทศแคเมอรูน เป็นลูกชายนายทหาร โธมัส กับคุณแม่ คริสติน เล่นกีฬาวอลเลย์บอล และฟุตบอลช่วงวัยเด็ก ก่อนเริ่มเล่นบาสเกตบอลขณะอายุ 15 ปี โดยลอกเลียนแบบ ฮาคีม โอลาจูวอน เซ็นเตอร์ระดับตำนาน NBA แล้วย้ายสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยวัย 16 ปี เพื่อเล่นบาสเกตบอลอาชีพ แทนเล่นวอลเลย์บอลอาชีพบนทวีปยุโรป

ปี 2014 เอ็มบีด ข้ามการเล่นมหาวิทยาลัยอีก 3 ปีสุดท้าย เพื่อเข้าสู่การดราฟต์กระทั่งถูก ฟิลาเดลเฟีย คัดเลือกอันดับ 3 และเซ็นสัญญารุกกี้ แต่หมดสิทธิ์ลงเล่นตลอดฤดูกาล 2014-15 เนื่องจากกระดูกเท้าแตก และได้รับบาดเจ็บซ้ำตรงแผลเก่าพักยาวตลอดฤดูกาล 2015-16

ข่าวคราวสะเทือนใจสุดๆ ของ เอ็มบีด คือ การสูญเสียน้องชาย อาร์เธอร์ เมื่อปี 2014 ด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ ตามพื้นเพของครอบครัว เขาเป็นคนพึ่งพาแรงสนับสนุนของบุคคลใกล้ชิด ครั้งหนึ่งเขายกเครดิตแก่น้องชายเป็นคนที่สร้างพลังขับเคลื่อนและคอยเชียร์เขา ดังนั้นการเสียชีวิตของน้องชายจึงทำให้เขาเกือบเลิกเล่นบาสเกตบอลอาชีพ

"ผมกลับบ้าน 2-3 สัปดาห์ เพื่อร่วมงานศพของเขา พอผมกลับมา ฟิลลี (ฟิลาเดลเฟีย) ผมยังทำกายภาพบำบัดต่อไป พยายามแกร่งขึ้น แต่ผมย่ำแย่เหลือเกิน เมื่อ อาร์เธอร์ จากไป ผมรู้สึกราวกับสูญเสียเป้าหมายของชีวิต ผมอยากจะเลิกเล่นบาสเกตบอล แล้วกลับบ้านเพื่ออยู่กับครอบครัว"

ความผูกพันของ เอ็มบีด กับน้องชาย แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อปี 2020 หลัง แอนน์ เดอ พอลา ภรรยา คลอดลูกคนแรก เขาตั้งชื่อว่า อาร์เธอร์ เพื่อเป็นการรำลึกถึงน้องชาย บวกกับความหวังว่า ทารกน้อยอาร์เธอร์ จะถ่ายทอดพลังบวกมาสู่ชีวิตของเขาเหมือนน้องชาย

หลังก้าวข้ามความเศร้าโศก เอ็มบีด วัย 29 ปี กลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งของลีก ลงสนาม 134 เกม ตลอด 2 ซีซันล่าสุด ค่าเฉลี่ย 30.6 แต้มของเขา เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นต่างชาติคนแรก ซึ่งคว้าแชมป์ทำคะแนน, ติด ออล-สตาร์ 6 สมัย และคว้าอันดับ 2 ของการโหวต MVP รองจาก นิโกลา โยคิช เซ็นเตอร์ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ปี 2021 กับ 2022

นับเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งผู้เล่นต่างชาติคว้ารางวัล MVP และครั้งที่ 2 ซึ่งผู้เล่นต่างชาติอยู่อันดับ 1-2-3 ของการโหวตต่อจากฤดูกาลที่แล้ว และ เอ็มบีด เป็นผู้เล่นคนที่ 2 จากทวีปแอฟริกา ต่อจาก โอลาจูวอน เมื่อปี 1994 และต่างชาติคนที่ 6 ต่อจาก โอลาจูวอน, สตีฟ แนช, เดิร์ก โนวิตซ์กี, ยานนิส อันเตโตคุมโป และ โยคิช

ตามประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ เอ็มบีด เป็นผู้เล่นคนที่ 5 ซึ่งคว้า MVP ต่อจาก อัลเลน ไอเวอร์สัน (2001) โมเซส มาโลน (1983), "ดร.เจ" จูเลียส เออร์วิง (1981) และ วิลท์ แชมเบอร์เลน (1966-68) หากนับเฉพาะ บิ๊กเมน (ผู้เล่นตัวใหญ่) เอ็มบีด เป็นคนที่ 3 ต่อจาก แชมเบอร์เลน และ มาโลน ซึ่งทั้งคู่พา ซิกเซอร์ส คว้าแชมป์ปี 1967 และ 1983 ตามลำดับ ส่วน ไอเวอร์สัน เข้ารอบชิงชนะเลิศ NBA และ ดร.เจ เข้ารอบชิงแชมป์สายตะวันออก

เพลย์ออฟของ “ฟิลลี” ค่อนข้างน่าประทับใจ กวาดซีรีส์ บรูกลิน เน็ตส์ และแย่ง 1 เกมมาจาก บอสตัน เซลติกส์ โดยปราศจาก เอ็มบีด แต่การปะทะกันของคู่ปรับสายตะวันออกยุค 70-80 อาจยืดเยื้อถึงเกม 6 หรือ 7 แต่ถ้าเชื่อมโยงประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ มันก็ยิ่งน่าติดตามว่า เซเวนตีซิกเซอร์ส ชุดนี้ จะไปได้ไกลแค่ไหน


กำลังโหลดความคิดเห็น