การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประเภททีมหญิง "2023 IIHF Ice Hockey Women's Asia and Oceania Championship" ที่ลานไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนลไอซ์อารีน่า พระราม 9 เมื่อวันที่ 3 พ.ค.เป็นการชิงชัยวันที่สาม เป็นรอบแรกนัดสุดท้าย
โดยทีมสาวไทยที่เก็บชัยชนะมาแล้ว 2 นัดรวด ลงสนามพบกับ สิงคโปร์ ที่ชนะมา 2 นัดรวด ทำให้ในเกมนี้เป็นศึกแย่งอันดับ 1 ของสาย ซึ่งไลน์อัพของไทยยังคงเหมือนเดิมจากสองเกมที่ผ่านมา
ไลน์ 1 มี ศิริกาญจน์ จิตตรีศิลป์, สุวิภา ปัญญามณีรัตน์, ทิพย์วรินทร ญาณกรธนาพันธุ์, วิลาสินี รัตนนัย, ศุภิสรา ธรรมมะ ส่วนไลน์ 2 มี ปริม เดชไทย, มาริษา ฉิมประดิษฐ์, พัชรมน วรวัฒน์, เอวิตรา โพธิ์ทอง, ภวริศา ศักดิ์ชัยเจริญกุล ขณะที่ไลน์ 3 มี พิจิตรา แซ่เจีย, กุญกัลชญา สวัสดิภาพ, นิษฐานันต์ ลอยกุลนันท์, วรินญา เกนทะนะศิล, แพรไพลิน ขันภักดี ส่วนไลน์ 4 มี ขวัญชนก เฉยกลาง, แพรพลอย ขันภักดี, ภัทรานิษฐ์ ศรพรหม และ 2 ผู้รักษาประตู คือ ธมิดา กุลธาดาปกรณ์ กับ ลลนา ถือสัตย์
พีเรียดแรกต่างฝ่ายต่างเล่นอย่างรัดกุมจนถึงนาทีที่ 4 “ออม” ศุภิสรา ธรรมมะ ปลดล็อกให้ทีมไทยยิงเข้าไปตุงตาข่ายออกนำ 1-0 จากนั้นรูปเกมก็เป็นไทยที่ครองได้มากกว่าแต่จังหวะยิงประตูยังไม่ผ่านมาผู้รักษาประตูของสิงคโปร์ ทำให้เกมอึดอัดอยู่นานจนในช่วงนาทีสุดท้ายของพีเรียดแรก “แพรว” ทิพย์วรินทร ญาณกรธนาพันธุ์ ก็มาทำประตูได้ทำให้ไทยนำห่าง 2-0
แต่ในพีเรียดสองกลับเป็นสาวไทยที่ทำได้ดีกว่าตอนพีเรียดแรก มีการเข้าทำเกมรุกที่หลากหลายจนได้ประตูที่สามจาก ทิพย์วรินทร จากนั้นสกอร์ก็ไหลได้ประตูที่ 4 กับ ที่ 5 จาก ศุภิสรา กับ สุวิภา ปัญญามณีรัตน์ ตามลำดับ ถัดจากนั้นไม่นาน ทิพย์วรินทร ก็มาทำประตูที่สามของตัวเองในเกมนี้ และ ยังได้ประตูจาก ศิริกาญจน์ จิตตรีศิลป์ ทำให้ไทยนำห่าง 7-0 ก่อนจบพีเรียดนี้ ทิพย์วรินทร ก็มายิงอีกทำให้ไทยนำ 8-0
เข้าสู่พีเรียดสุดท้าย ทีมสาวไทยมีสลับผู้เล่นระหว่างไลน์แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณภาพลดลงเลย แล้วยังมาได้ประตูที่ 9 จาก พัชรมน วรวัฒน์ และประตูที่ 10 จาก ศุภิสรา ต่อมา สิงคโปร์ สามารถตีไข่แตกได้ไล่มาเป็น 1-10 จากนั้นไทยเดินเกมบุกต่อเนื่องแล้วเป็น “น้ำตาล” วิลาสินี รัตนนัย ยังเข้าไปทำให้ไปฉีกไปเป็น 11-1 ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจสำหรับสาวไทยมาได้อีก 1 ลูกจาก สุวิภา ทำให้ไทยนำ 12-1 ก่อนหมดเวลาไทยกับสิงคโปร์ทำได้คนละ 1 ประตู ทำให้จบเกมเป็นไทยเอาชนะ 13-2 จบ 3 นัดไทยชนะรวดได้อันดับ 1 ของสาย เข้าไปรอในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะแข่งวันที่ 6 พ.ค.เวลา 17.00 น.